เข้าใจทุกอย่างแต่ยังไม่หาย

สำหรับ ผู้ที่ผ่านพ้นช่วงเวลาของการเรียนรู้ ไตร่ตรองสิ่งต่างๆมาอย่างไม่มีอะไรคาใจอีกต่อไปแล้ว  ใช้เวลารักษาเยียวยาตนเองมานานพอสมควร จนเริ่มมีจิตใจที่ดีขึ้น

ทำความเข้าใจในสิ่งต่างๆ มีใจที่จะปล่อยวางแล้ว  และปรับทัศนคติ ปรับจิตใจ มีแง่คิดดีๆมากมายที่เหมือนจะพร้อมที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่อย่างยืนหยัดขึ้นอีกครั้งแล้ว

แต่ทว่า!

บางวัน บางเวลา กลับยังต้องเผชิญภาวะไร้เหตุผล เช่น รู้ทั้งรู้ว่าไม่ควรเศร้ายังจะเศร้าอีก รู้ทั้งรู้ว่าไม่มีอะไรต้องคิดแล้วยังมักจะเผลอคิดอีก

รู้ทั้งรู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่จิตใจก็ยังวนเวียนในเรื่องเดิม ทั้งๆที่ตนเองได้รับการเสริมปัญญาให้กับชีวิตแล้ว

สาเหตของภาวะแบบนี้ ส่วนประกอบสำคัญอันดับแรกนั่นก็คือ “ความเคยชิน” ความเคยชินของชีวิตประจำวันที่ผ่านมา ที่เคยชินอยู่กับการคิดถึง การไคร่ครวญ การย้ำคิด ในช่วงที่ตกเป็นคนคิดมากนั้นสร้างความเคยชินโดยไม่รู้ตัว

ความเคยชินนี้ มันคือสิ่งที่สามารถเป็นได้แม้ว่าจะไร้เหตผล  แม้ว่าเมื่อก่อนคุณจะรู้สึกหดหู่เพราะมีความคิดเศร้าๆ ความนึกในเรื่องแย่ๆ  แต่แม้คุณจะไม่คิดไม่นึกแล้ว แต่ภาวะความเคยชินมันก็เผลอเสพติดไปโดยไม่รู้ตัว และก่อรูปของอารมณ์หดหู่ขึ้นได้เองอย่างไร้เหตุไร้ผล

ซึ่งก็คือระบบร่างกายของคุณเผลอติดวงจรเดิมๆ เข้าไปโดยไม่รู้ตัว

จิต

ทางแก้ไขคือ

คุณอย่าพึ่งวิตกกังวลท้อแท้ในอาการของตัวเอง  จงพยายามปรับตัวใหม่ค่อยๆฝืน อย่าให้วงจรเดิมๆมันบริหารความเคยชิน จงขัดขืนมันจัดวงจรให้มันใหม่วันละเล็กละน้อย คุณจะดีขึ้นตามลำดับ

และสาเหตประการต่อมานั่นก็คือ  “ความที่ยังขาดสิ่งใหม่ๆ”

แม้ว่าสมองและจิตใจของคุณจะผ่านการทำใจเยียวยารักษาใจมาดีแล้วก็ตาม แต่มันก็เปรียบเสมือนคอมพิวเตอร์ที่ ซ่อมเสร็จใหม่ๆ พร้อมที่จะลงโปรแกรมต่างๆใช้งาน แต่ทว่าก็ยังเป็นคอมพิวเตอร์ที่ยังไร้โปรแกรม

ซึ่งก็หมายถึงว่า  แม้ว่าคุณจะรักษาตัวเองมาดีแล้ว แต่คุณพึ่งจะยืนหยัดขึ้นได้และกำลังมองอยู่ว่าจะเริ่มชีวิตใหม่ยังไงดี

ซึ่งมันอาจยังทำให้คุณไม่ชินกับชีวิตใหม่ๆ คุณยังไม่ได้คลุกคลีกับวิถีชีวิตใหม่ๆมากพอ ชีวิตของคุณยังไม่ได้รับโปรแกรมใหม่ๆสำหรับการดำรงชีวิตในสภาพปรกติอย่างสมบรูณ์

 จิตใจของคุณที่ยังเป็นพื้นที่ว่าง มันก็ง่ายต่อการถูก ระบบวงจรในอดีต วนเวียนมาใช้พื้นที่สิงสู่ในจิตใจ

ดังนั้นทางที่ดีคุณต้องใส่ใจ และคลุกคลีกับชีวิตใหม่เปิดโลกใหม่ให้มากๆ และเมื่อทุกอย่างหล่อหลอมได้มากพอ แล้ว นั่นล่ะคือวงจรทำงานครบระบบและเรียกว่า ความมีชีวิตชีวา

2 Comments

  1. ไม่ขอเอ่ยชื่อ

    กำลังเป็นแบบนี้อยู่เลยค่ะ
    อยู่ในช่วงที่อะไรเดิมๆ อาการเดิมๆ วนกลับมาหา จนท้ออยู่ช่วงนึง เพราะมันส่งผลในการทำงาน คือเบลอ จำอะไรไม่ได้ หมกมุ่นกับความคิดลบๆเดิมๆ ซ้ำเติมตัวเอง

    ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ได้ทำความเข้าใจความทุกข์และความเศร้าในใจของตัวเองแล้วแท้ๆ เข้าใจจนข้ามผ่านอาการซึมเศร้า รู้สึกเป็นคนใหม่ที่เบิกบานที่สุดนับตั้งแต่มีชีวิตมา เหมือนเกิดใหม่ หลังจากที่ซึมเศร้าและอยากตายมาราวๆ 3 ปี

    ไม่รู้เลยว่าเผลอกลับไปเป็นแบบเดิมตอนไหน เพราะอะไร เครียดกว่าเดิมเลย
    เพราะไม่อยากเป็นอีก มันแย่มากๆที่เป็น

    ตอนนี้ก็เหมือนจะเริ่มปรับตัวได้อีกครั้ง แต่ก็ไม่ดีเท่าเดิมค่ะ เหมือนยังคลำทางอยู่
    มองไม่เห็นทางออกเลย ยังสับสนอยู่ แต่ก็ยังพยายามหาคำตอบ
    จนมาเจอเว็บนี้และบทความนี้

    ยังไงก็ตาม ก็ยังคงหาคำตอบต่อไปค่ะ

    Reply

    • admin

      ไม่เป็นไรครับ ลองตั้งใจใหม่อีกครั้ง ยืนขึ้นอีกครั้งและครั้งนี้ อย่าลืมสิ่งสำคัญต่างๆที่ทำให้ใจเรากลับมามีพลังได้

      Reply

Leave a Comment

Your email address will never be published or shared and required fields are marked with an asterisk (*).