อย่าพยายามฝืนให้เขาแกร่ง ในสภาวะที่ไม่เหมาะแก่เวลา

Tagged: ,

อย่าพยายามฝืนให้เขาแกร่ง ในสภาวะที่ไม่เหมาะแก่เวลา

การกระตุ้นให้แข็งแกร่ง ด้วยการเอ่ยถ้อยคำที่ไม่แสดงความสงสารหรือเห็นใจ หรือแม้แต่บางรายใช้การกล่าวหยันเหยียด หรือหัวเราะหมั่นไส้ หรือแสดงความสมเพชอย่างไรก็แล้วแต่ ด้วยหวังลึกๆว่าจะช่วยกระตุ้นให้ คนที่กำลังซึมเศร้าแข็งแกร่งขึ้นได้นั้น

ถือเป็นหลักวิธีที่หลายๆคนนิยมนำมาใช้กันอยู่

แต่วิธีเหล่านี้ไม่สามารถใช้ได้ในทุกกรณีโดยเฉพาะกับผู้ป่วยซึมเศร้าในลักษณะที่ก่อเกิดถึงขั้นโรคซึมเศร้า โดยเฉพาะกับบุคคลทั่วไปที่ไม่มีความรู้ความเข้าใจ ต่อเรื่องของกลไกลภาวะจิตใจมนุษย์ ยิ่งเป็นปัจจัยสุ่มเสี่ยงที่จะซ้ำเติม ทำให้ผู้ป่วยมีอาการแย่ลง

ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกว่าโลกนี้โหดร้ายขึ้น อยู่ยากขึ้น และไม่มีใครเข้าใจหรือเห็นใจเขา

รักษาใจ3

ดังนั้นผู้ที่จะทำการดูแลช่วยส่งเสริมการรักษาตัวของผู้ป่วย ควรทราบถึงข้อสำคัญดังต่อไปนี้

1.อย่าเอาตนเองเป็นที่ตั้ง  เช่นพูดข่มผู้อื่นว่าตนเองเคยเจอเรื่องร้ายๆมาแล้ว ตัวเองเคยเจอเคยผ่านสิ่งนั้นสิ่งนี้      ควรทราบว่า ระดับขีดจำกัดของคนนั้นมีไม่เท่ากันแตกต่างกัน อีกทั้งเรื่องราวที่เจอย่อมมีรายละเอียดของเนื้อหาและบริบทที่ต่างกัน   เจอในภาวะที่ต่างกัน ย่อมมีข้อแตกต่างไม่มากก็น้อย และที่สำคัญในยามที่ตนเองเผชิญนั้นก็ต้องอาจผ่านในจุดที่อ่อนแอเช่นกัน และไม่จำเป็นต้องเอาสภาพที่โหดร้าย ให้ผู้อื่นเผชิญเฉกเดียวกับตนเองเสมอไปหากสามารถทำให้ดีกว่าได้นั้นคือสิ่งที่ควรทำ

2.คนในภาวะอ่อนแอหรือมีการกระทบกระเทือนจิตใจ ควรทราบว่านั่นเป็นภาวะที่ร่างกายเกิดความผิดปรกติทางโครงสร้างระบบประสาทและสารเคมี ความรู้สึกทุกข์สุขในระบบประสาทมีการทำงานแปรปรวนและอารมณ์ที่สับสน สติและปัญญาที่ตีบแคบลง ความสนใจที่เพ่งกับสิ่งหนึ่งเกินพอดี และความเหม่อลอยยากมองเห็นเรื่องราวในภาพกว้าง  อีกทั้งมีสภาพสมองที่เคี่ยวกรำและพักผ่อนน้อย แม้แต่คนปกติที่เจอสภาวะเช่นนี้ก็แทบไม่อาจคิดเรื่องง่ายๆได้ออก หรือมีกระบวนการรับรสได้ถูกต้อง และที่สำคัญก็คือระบบเซ้นส์หยั่งรู้รายละเอียดต่างๆจากสามัญมโนสำนึกก็มีสภาพบกพร่องลงด้วย   ไม่สามารถเอามาเปรียบเทียบกับคนปรติที่มีสติสัมปชัญญะ สภาพโครงสร้างต่างๆที่สมบรูณ์กว่าได้

โรคทางจิตหรืออาการทางจิตไม่ได้แปลความหมายว่าคนๆนั้นจะต้องเป็นคนบ้าหรือเป็นคนโรคจิต  แต่ความผิดปรกติทางจิตชั่วคราวนั้นสามารถมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้กับคนทุกคน ภาวะได้รับบาดเจ็บและไม่ปรกติทางจิตใจนั้น ความเสื่อมถอยบกพร่องต่างๆแผลต่างๆเป็นสิ่งที่คนภายนอกมองไม่เห็น  คุณจำเป็นต้องเข้าใจว่านั่นเปรียบเสมือนคนที่ขาหักคนหนึ่งหรือคนที่ประสบอุบัติเหตุคนหนึ่ง อยู่ในสภาวะควบคุมและช่วยเหลือตนเองไม่ได้   ดังนั้นการประคอง และใช้วิธีที่อ่อนแอ อ่อนโยนบ้างนั่นคือสิ่งที่จำเป็นอย่างที่สุดในเวลานั้น

แม้ว่าวิธีไม้อ่อนและคอยปลอบคอยเอาใจนั้นอาจจะส่งผลให้ผู้ป่วยเคยชินกับความอ่อนแอ แต่ทว่าทุกกระบวนการขั้นตอนมันมีเวลาที่เหมาะสมของมันอยู่ จงค่อยๆเรียงระดับ วิธีให้เหมาะสมกับเวลาและสถานการณ์ภาวะการณ์ หากจะส่งเสริมให้เขาเข้มแข็งขึ้นก็ค่อยๆเพิ่มระดับลำเลียงไป ประกอบกับต้องให้ความรู้ให้คำปรึกษาที่ดีด้วย

Leave a Comment

Your email address will never be published or shared and required fields are marked with an asterisk (*).