จงกล้ายอมรับความจริง ของสภาพนิสัยจิตใจตัวเอง
ก่อนอื่น อยากจะให้ คุณลองนึกถึงรถยนต์คันหนึ่ง ที่กำลังมีอาการเสีย มีสภาพทุลักทุเลและเสี่ยงต่อการขับไปต่อ แน่นอนว่าสิ่งแรกที่ย่อมต้องทำในการที่จะแก้ไข นั่นก็คือ “คุณต้องเปิดฝากระโปรงรถขึ้นดู” และเมื่อคุณมองเห็นว่ามีชิ้นส่วนใดๆของรถชำรุดคุณเห็นรอยร้าว คุณได้กลิ่นไหม้ คุณสัมผัสได้ถึงความชื้นที่รั่วซึม คุณรู้สึกได้ถึงปัญหาที่ไม่ปรกติ
และ ทุกอย่างมันจะมีโอกาสแก้ไขได้ แต่ทว่า อะไรกันล่ะที่คุณจะต้องทำก่อนสิ่งอื่นใด?
คำตอบก็คือ………….
…….
…
“การยอมรับ” ยังไงล่ะ ที่คือคำตอบ
คุณต้องยอมรับความเป็นจริงว่าชิ้นส่วนอะไรบ้าง ที่มันเสียหายสึกหรอหรือเสื่อมสภาพ เพราะหากว่าคุณไม่ยอมรับมัน รถของคุณก็ย่อมที่จะไม่เกิดการซ่อมแซม ดังนั้นคุณต้องกล้าที่จะเปิดกระโปรงรถ และกล้าที่จะมองหาให้เห็นชิ้นส่วนที่เสียหาย และต้องกล้ายอมรับมันด้วย
ควรทราบว่า จิตใจมนุษย์ในสังคมโดยทั่วไป มักถูกหล่อหลอมให้มีจิตใจบางส่วนที่ ไม่ยอมรับความเป็นจริง ยกตัวอย่างเช่น บางคนจริงแล้วเนื้อแท้เป็นคน ขี้อิจฉา ริษยา หรือมีข้อไม่ดีต่างๆ แต่เจ้าตัวมักจะยอมรับความเป็นจริงไม่ได้ มักจะยกเหตุผลร้อยแปด กลบเกลื่อนจิตใจของตน หลอกตัวเองให้เชื่อโดยสนิทใจว่า ตนเองไม่ได้เป็นเช่นนั้น
อันที่จริงแล้วมีจิตใจมากมายหลายประเภทที่มนุษย์มักสร้างกลไกลทางจิต มากลบเกลื่อนตัวเอง จนแนบเนียนชนิดที่เจ้าตัวก็ยังไม่รู้ตัวเอง
และเมื่อไม่ยอมรับความเป็นจริงมันก็ย่อมที่จะไม่ถูกแก้ไข
และสำหรับจิตใจที่เกี่ยวข้องกับโรคภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล หดหู่กลัดกลุ้มเครียดนั้น ก็เช่นกัน มีจิตใจหลายชนิดที่คนเราทั่วไปมักไม่ยอมรับความเป็นจริง
อาทิเช่น คนที่กำลังจะอกหัก
มักจะหลอกตัวเองว่า ฉันไม่เป็นไร ฉันไม่ง้อ ฉันทนได้ ฉันไม่แคร์ และมักจะฝืนเก๊ก มักจะฝืนวางฟอมร์ต่างๆนาๆ ซึ่งคนที่มีความเชื่อแบบนี้ มักจะไม่ยอมรับความเป็นจริงของตัวเอง จนพวกเขาพลาดสิ่งสำคัญที่สุด
นั่นก็คือพลาดโอกาส ที่จะได้เกิดการรักษาหัวใจอย่างถูกวิธีตรงจุด และจัดการตั้งแต่ มันพึ่งก่อตัวซึ่งจะเป็นขั้นตอนที่ยังรักษาง่ายขึ้น บำบัดจิตใจได้ผลที่สุด
แต่คนที่หลอกตัวเองมักจะปฏิเสธ ที่จะยอมทำการบำบัดตัวเองในช่วงเหล่านี้
และจากนั้นเมื่อพวกเขาค่อยๆกระทบกระเทือนจิตใจ ค่อยๆเก็บกดวันละเล็กวันละน้อย ค่อยๆแอบกลุ้มเครียดสะสมภายใน
สุดท้าย หลายคนที่ต่อมทระนงตน ต้องระเบิด บางคนเมื่อระเบิดแล้วกลายเป็นคนขวัญเสียฟูมฟาย บ้าบอเป็นเอาหนัก บางคนสติแตกจน ยอมทำในสิ่งที่ลดตัวลงไปทำเรื่องน่ารังเกียจต่างๆหรือเรื่องเลวร้ายต่างๆ อย่างสูญเสียความเป็นตัวของตัวเอง บางคนกลายเป็นคนปวดร้าวซึมเศร้ายาวนาน
ความลับก็คือหากว่าพวกเขายอมรับ ความอ่อนแอของตัวเอง ตั้งแต่แรกและเรียนรู้ที่จะจัดการกับข้อบกพร่องต่างๆของตนเอง บำบัดอย่างถูกวิธี มากกว่าการนิ่งเฉยฝืนเสแสร้งทำเป็นว่าไม่เป็นอะไร พวกเขาก็จะไม่ตกอยู่ในสภาพเหล่านี้ หากพวกเขาทำเหมือนดั่งการซ่อมรถ กล้าที่จะเปิดรถออกดู กล้าที่จะสำรวจตัวเองเหมือนที่สำรวจรถ กล้าที่จะยอมรับข้อบกพร่องของตนเอง พวกเขาก็จะได้แก้ไขได้ทันท่วงที
แต่ประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจนั่นก็คือคนเราหากว่าไม่เห็นโลงศพ มักไม่หลั่งน้ำตา ไม่ว่าใครต่อใคร ก็มักปักใจเชื่อว่าตัวเองเนี่ยล่ะเก่ง ตัวเองไม่เหมือนใคร……………
ใช่ จริงอยู่ว่าโลกนี้มีผู้ที่แข็งแกร่งอยู่จริง มีแนวทางคำสอนมีคำคมมีหลักปรัชญามากมาย ที่พูดในเชิงที่แข็งแกร่งเข้มแข็ง
แต่ทว่าปัญหามันมีอยู่ว่าคุณทำได้จริงหรือเปล่าคุณปฏิบัตตามได้จริงหรือไม่ มันสำคัญที่คุณต้องประเมินภาวะของตัวเองให้ถูก
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามเมื่อใดที่คุณอยากจะรักษาจิตใจตัวเองไม่ว่า จะในระยะเริ่มต้นหรือในระยะที่ถลำลึกเป็นเอาหนักแล้ว คุณต้องยอมให้เวลามากๆอย่างตั้งใจที่จะทำการแสกนสำรวจตัวเอง แล้วยอมรับความเป็นจริง
เจ็บต้องบอกว่าเจ็บ แค้นต้องยอมรับว่าแค้น หึงต้องยอมรับว่าหึง เสียดายต้องยอมรับว่าเสียดาย รักต้องยอมรับว่ารัก โลภต้องยอมรับว่าโลภ หลงต้องยอมรับว่าหลง
ยอมรับเพื่อที่จะแก้ไข มิใช่ยอมรับเพื่อจะอยู่ร่วมกับนิสัยบกพร่อง
ซึ่งวิธีนี้ ใช้ได้กับผู้ที่ไม่ได้ซึมเศร้าเรื่องความรักด้วย ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่สูญเสีย เงินทองทรัพย์สิน การงานหน้าที่ หรือการเรียน โดนกลั่นแกล้งรังแก หรือชีวิตตกทุกข์ได้ยาก หรือซึมเศร้าด้วยเรื่องอันใดก็ตาม
คุณต้องเริ่มจากสำรวจตัวเองให้ถ่องแท้ ว่าสาเหตุที่คุณซึมเศร้านั้น เพราะจิตใจของคุณมันรู้สึกอย่างไรบ้าง จงอย่าปิดบังตัวเองหลอกตัวเอง จงตอบอย่างแท้จริง
จากนั้นนำกระดาษกับปากกา จดลงไปเป็นข้อๆว่ามันมีอะไรบ้างในจิตใจของคุณ จงอย่าพึ่งปักใจเชื่อว่า ตนเองเป็นอย่างที่ตรวจพบแล้วแน่ๆ จงเผื่อใจไว้ส่วนหนึ่งค่อยๆสังเกตุตัวเองไปกับวันเวลา ให้เวลาอีกนิด จนกว่าจะแน่ใจ
การยอมรับนั้น ขอจงจำเอาไว้ให้มั่นว่า ในที่นี่เรายอมรับมันเพื่อที่จะเห็นมัน เพื่อที่จะเห็นร่องรอยบาดแผลต่างๆในตัวเรา มองเห็นอาการต่างๆในตัวเรา ก็เพื่อจะแก้ไขรักษา ขอย้ำเลยว่าต้องจำไว้ให้ได้ว่าเพื่อจะแก้ไขรักษา
เพราะบางคนอาจหลงทางผิดในขั้นตอนนี้ก็คือ พอยอมรับความเป็นจริงแล้วก็กลับอยู่กับสิ่งเหล่านั้นปล่อยให้มันเป็นแบบนั้น อย่างเช่นพอยอมรับตัวเองว่ารัก ก็ตามรักไปใหญ่ แบบนี้ไม่ถูกต้อง เพราะหากว่าคุณกำลังรักในแบบผิดๆและในแบบที่รนหาเรื่องทุกข์ และสร้างความเดือดร้อนรำคาญต่อผู้อื่น นั่นย่อมไม่ใช่รักที่ดี
การยอมรับไม่ว่าจะยอมรับความเป็นจริงในเรื่องใด เรายอมรับเพื่อที่จะแก้ไขปัญหาของมัน เราสามารถถามลงลึกในรายละเอียดได้เรื่อยๆ อย่างเช่น รัก>รักอะไร>รักทำไม> ถามลึกลงไปเรื่อยๆจนเข้าใจ ก้นบึ้งของจิตใจแล้วจัดการแก้ไข ฝึกสอนปรับทัศนคติให้ตัวเองใหม่ อย่างคนที่มุ่งหมายที่จะตาสว่าง นั่นล่ะคือการเริ่มต้น แห่งหนทางรักษาแก้ไขปรับปรุงจิตใจตน ที่มีพลัง
เนื้อหาข้อเขียนในบทความเขียนโดย เจ็ดผู้ว่าง่าย setmem.com
setmem.com ที่แห่งการแบ่งปัน ปรึกษา รักษา ความเครียด กลุ่ม รักษา โรคซึมเศร้า ที่แห่งการประคอง เข้าใจ และร่วมกันก้าวผ่านฝันร้ายๆ สู่วันที่ฟ้าสดใสและเข้าใจชีวิต