Tagged: รักษาโรคซึมเศร้า, รักษาโรคเครียด, โรคซึมเศร้าเรื้อรังง, โรคเครียดเรื้อรัง
เข้าใจสภาวะภายในที่เกิดขึ้นของผู้ป่วย
การทำความ เข้าใจสภาวะของผู้ป่วย หรือผู้ที่มีอาการซึมเศร้าทางจิตใจคือสิ่งที่สำคัญที่สุด
ความรู้สึกและอาการต่างๆภายในจิตใจนั้นมันเป็น เรื่องที่บุคคลภายนอกยากมองเข้าใจ มันเป็นเรื่องที่ตัวหนังสือหรือคำพูดไม่สามารถบรรยายให้เข้าใจได้ในหลายส่วน บางเรื่องต้องเคยมีประสบการณ์จึงจะเข้าใจ บางเรื่องแม้เคยมีประสบการณ์แต่ก็สูญเสื่อมความรับรู้ที่คมชัดไปแล้ว
และด้วยเหตุที่ขาดความเข้าใจถึงภาวะเหล่านี้ นั้นอาจทำให้เราละเลยคนรอบข้างของเรา หรือแม้แต่เลวร้ายถึงขั้น ที่บางคนถูกคนรอบข้างทำร้ายจิตใจ ให้สะเทือนไม่สิ้นไม่สุด หรือถูกปั่นหัวอย่างคึกคะนอง หรือถูกความชินชาหรือแม้แต่รำคาญ เข้าทำร้ายจิตใจ จนเข้าสู่ภาวะวิกฤติได้
อันเนื่องมาจากผู้กระทำ ขาดความเข้าใจถึงสภาพภายในอันแท้จริงว่ามันเป็นอย่างไร
หากคุณเป็นบุคคลภายนอกที่มีความประสงค์ดีและอยากทุ่มเทเสียสละเวลา มาช่วยให้คนๆหนึ่งหลุดพ้นฟื้นขึ้นมาได้จากโรคซึมเศร้า คุณจำเป็นอย่างยิ่งที่จะเรียนรู้ทำความเข้าใจถึงภาวะที่เกิดขึ้นกับคนที่ตกออยู่ในภาวะเครียดซึมเศร้า
สิ่งที่คุณควรจำเป็นต้องเรียนรู้พื้นฐานนั้นมีดังนี้
1.คนที่ตกอยู่ในภาวะ คร่ำเคร่งสมองและจิตใจตนเองเรื้อรังสะสมมาหลายวัน คนเหล่านี้จะมีสภาพประสาทสมองที่ล้าและตีบแคบ บางทีไม่สามารถเข้าใจเรื่องง่ายๆได้ และบางทีอาจทำตัวแบบคนโง่งม จนอาจเป็นที่หมั่นไส้ของคนพบเห็น ซึ่งขอให้จำไว้ให้ดีว่า เราจะเอาสภาพปรกติที่สมองสมบรูณ์แจ่มใสของตัวเรา ไปตัดสินเขาไม่ได้ เราต้องเข้าใจสภาพทางเคมี ในตัวของผู้ป่วยทางจิตใจ ซึ่งมันจะคล้ายการเอาคนอดนอนมานับเลข เอาคนเมาสุรามาคิดไตร่ตรอง ขอให้เข้าใจว่าผู้ที่ตกอยู่ในภาวะเครียดเรื้อรังจะมีความไม่ปรกติ ผิดเพี้ยนอยู่ในจิตใจ
2. คนที่ซึมเศร้า โดยเฉพาะจากภาวะสูญเสีย มักจะมีอาการคร่ำครวญอาลัยหาสิ่งที่เสียไปแบบย้ำคิดย้ำทำ และการย้ำคิดนี่เองมันจะทำให้เกิดภาวะผูกพัณธ์ คลุกคลี และยิ่งคลุกคลีจิตใจก็จะยิ่งยึดติด มันเป็นภาวะที่คล้ายกับเวลาที่เราไปคลุกคลีอะไรสักอย่างมากๆจนผูกพัณธ์ และโดยเฉพาะผู้ที่สูญเสียก็มักจะคิดถึงแต่สิ่งที่ดีๆของสิ่งที่เสียไป นั่นจึงทำให้ อารมณ์และจิตใจจะถูกครอบงำ ต่อสิ่งที่สูญเสียไป และคนภายนอกที่มองเห็นคนที่เป็นอาการแบบนี้ ก็มักจะไม่เข้าใจภาวะนี้ อาจจะมองว่าโง่บ้าง อาจจะมองว่า ทำตัวไม่เป็นเรื่องบ้าง แต่ขอให้เข้าใจว่าภาวะเหล่านี้มันเกี่ยวเนื่องกับสารเคมีในสมองและร่างกายด้วย ซึ่งสารเคมีเหล่านี้ถูกหลั่งออกมาจากจิตใจ และก่อเกิดเป็นรูปอารมณ์ ขอให้คุณจงเข้าใจว่าในโลกนี้ไม่มีใครที่อยากจะเสพติดอะไรจนทรมานหรอก แม้แต่ยาเสพติดก็ยังมีคนที่อยากจะเลิกแต่เลิกในฉับพลันไม่ได้เพราะมันทนทุกข์และทรมาน
ซึ่งภาวะของโลกเครียดส่วนหนึ่งก็มาจากภาวะจิตใจที่ถลำลึก เสพยึดต่อสิ่งหนึ่งโดยไม่รู้ตัว และกว่าจะถอยได้ก็ถลำลึกไปมาก ซึ่งมีผลต่อระบบเคมีในจิตใจที่รู้สึกวูบวาบ อย่างบรรยายเป็นคำพูดไม่ได้ และทำให้เกิดสภาวะ ทำใจไม่ได้ ทำอารมณ์ไม่ได้ ซึ่งอาการเหล่านี้ คนรอบข้างต้องเข้าใจเขา ต้องค่อยๆช่วยค่อยๆพยุงค่อยๆแก้ และต้องอดทน
ซึ่งบางคนอาจจะไม่เข้าใจ อาจจะมองว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องของใจ และคิดว่าตนเองแน่ตนเองเก่งตนเองไม่มีทางตกในสภาพนี้ และดูถูกคนที่ตกอยู่ในภาวะเหล่านี้ หรือไปแก้ไขปัญหาไม่ตรงจุดเช่นไปเรียกร้องให้ผู้ป่วยเข้มแข็งให้ได้อย่างตัวเอง
3. ขอให้ตระหนักไว้ว่าคนเรานั้นร้อยพ่อพันแม่มีประสบการณ์ชีวิต มีวิถีมีสภาพแวดล้อมมีสังคมต่างๆหล่อหลอมมาไม่เหมือนกัน มีภาวะที่ต่างกันจงอย่าได้ยึดเอาตนเองเป็นที่ตั้งไปในทุกเรื่อง คุณต้องมีความเข้าใจสภาวะของเขา ขีดจำกัดของเขา การจะฝึกให้เขาเข้มแข็งนั้นควรทำหลังจากที่เขาได้รับสติและบำบัดอาการบอบช้ำแล้ว รวมถึงได้รับการพักฟื้นสภาพร่างกาย
ในส่วนของระบบประสาทสมองที่คร่ำเคร่ง มาแล้วพอสมควรจึงค่อยไปเริ่มการสอนให้เขาเปลี่ยนตัวเองใหม่ในตอนนั้น แต่ในช่วงแรกๆยังไม่ควรไปใช้วิธีดังกล่าว แต่ควรเน้นที่จะทำให้เขาได้พัก และปลอบใจเขา ให้กำลังใจเขา อย่าพึ่งรำคาญสภาพอ่อนแอสับสนของเขา อย่ากลัวว่าเขาจะเป็นคนงอแงเรื่องมากตลอดไป ขอให้อดทนและค่อยๆพยุงเขาให้ได้ก่อนแล้วค่อยๆเพิ่มไปในทีละขั้น