กำจัดทัศนคติผิดๆที่เป็นต้นเหตุของความทุกข์
หากเราลองสังเกตุระบบความคิดต่างๆที่นำพาทุกข์มาให้เรา หรือสังเกตุจากตัวเราที่เป็นทุกข์หรือสังเกตุหรือจากผู้อื่นที่เป็นทุกข์ เราจะพบว่าหลายครั้งในเวลาที่เราเฝ้าระบายพร่ำเพ้อจิตใจที่ขุ่นเครียด เศร้าทุกข์ใจ ในเรื่องราวที่เราได้ระบายออกมา จากความอัดอั้นตันใจ บางทีแท้จริงแล้วมันก็เหมือนสายน้ำ ที่เราจำเป็นที่จะต้องย้อนไปมองดูที่ต้นน้ำและตั้งใจจัดการที่สาเหตุ ของความคิดมากอันซับซ้อนซ่อนเงื่อนปมไว้มากมาย
บางทีเราอาจไม่ทันรู้ว่า สิ่งพื้นฐานประการหนึ่งที่ นำมาซึ่งความคิดความรุ้สึกที่เจ็บปวดที่เราเป็นอยู่และคนควรจะต้องมองมันให้เห็น นั่นก็คือ “ทัศนคติ”
เคยเจอไหมคนที่มักชอบพูดว่า “ถ้าฉันไม่มี สิ่งนั้น ฉันอยู่ไม่ได้” “ถ้าฉันไม่มีเธอฉันเดินต่อไปไม่ไหว” ถ้าฉันมี หรือถ้าฉันไม่มี สิ่งนั้น สิ่งนี้ ฉันจะเป็นแบบนั้นแบบนี้
นี่คือตัวอย่างของทัศนคติที่ผิดๆ การปลูกฝังทัศนคติแบบผิดๆให้ตัวเองนำพาไปสู่การฝึกนิสัยจิตใจและอารมณ์ที่ไม่ถูกต้อง และเป็นปัญหา ให้ตัวเองเป็นลำดับต่อมา เมื่อเชื่อยังงั้นคิดยังงั้น อยู่แบบนั้นนานวันเข้า ตัวเองก็กลายเป็นแบบนั้นไปจริงๆ
หากว่าคุณคือหนึ่งคนที่มีทัศนคติทำนองนี้อยู่ ขอให้คุณลองตั้งสติคิดสักนิดว่า
ความคิดแบบนั้นมันคือทัศนคติที่หลอกลวงต่อความเป็นจริง และค่อนข้างที่จะฝืนกฏของธรรมชาติในโลกนี้ ฝืนกฏสัจธรรมเป็นอย่างยิ่ง
โลกเรานี้ทุกชีวิตต่างต้องดิ้นรน ต่างต้องยืนหยัดด้วยตัวเอง การพรากจากคือสิ่งที่ไม่มีใครหนีพ้น ไม่มีสิ่งไหนที่เราจะมายึดติดผูกขาดเป็นของเราได้เลย ทุกสรรพสิ่งล้วนย่อมมีการเสื่อมสลาย มีการเปลี่ยนแปลง มีการจากหาย
การไปตั้งทัศนคติแบบฝืนความเป็นจริง ที่ไม่ถูกต้องเอาไว้ กับตัวเองนั่นคือเรื่องที่โง่เขลาและวางกับดักระเบิดทำร้ายตัวเองเอาไว้ล่วงหน้ามากๆ ความเป็นจริงของชีวิตในโลกนี้ นั้นคือสิ่งที่คุณจะต้องมองให้เห็น
อย่าไปวาดภาพเพ้อฝันลวงหลอกตนเองว่าโลกนี้ จะไม่มีวันที่จะพรากจากของรัก และตราบใดที่คุณยังไม่ยอมรับความเป็นจริงข้อนี้ ยังไม่ยอมรับที่จะปรับเปลี่ยนทัศนคติของตัวเอง
มันก็ไม่มีประโยชน์ที่ จะไปหาหมอที่ไหนหรือหาใคร มาช่วยหาทางรักษาหาทางออกให้กับตัวคุณได้ เพราะทัศนคติของคุณเองนั่นล่ะคือสิ่งที่มันคุมขังให้ต้องอยุ่ในความทุกข์เศร้าและทรมานใจ
หรือแม้ในวันนี้คุณยังเป็นสุขอยู่กับสิ่งใดอยู่ก็ตาม โดยที่คุณได้ตั้งเงื่อนไขให้กับตัวเองด้วยทัศนคติที่ฝืนกฏธรรมชาติเอาไว้ ขอให้คุณจงเรียนรู้ที่จะแก้ไขสิ่งเหล่านี้ ก่อนที่มันจะกลืนกินเข้าสู่จิตใจให้ยากยอมรับความเป็นจริงมากไปกว่าเดิม
เนื้อหาข้อเขียนในบทความเขียนโดย setmem.com