ความปราถนาอย่างแรงกล้า ที่จะรักษาตัวให้หายคือสิ่งสำคัญที่สุด
ตลอดช่วงระยะเวลา ที่ผมได้พบเจอผู้คนแต่ละคน ที่เข้ามาปรึกษาปรับทุกข์ และบอกกับผมทำนองว่าเขาอยากเลิกทรมาน กับความเสียใจ ทุกข์ใจสักทีนั้น
เชื่อหรือไม่ว่า 90% มักมีอาการหลอกตัวเอง หลอกตัวเองนั่นก็คือ ปากบอกอยากหาย แต่แท้จริงในใจกลับไม่ใช่อยากหายเลย โดยที่เจ้าตัวยังคงไม่รู้ตัวและไม่รู้จักใจของตัวเองมากพอด้วยซ้ำ
แท้จริงใจเบื้องลึกที่ลึกชนิดเจ้าตัวยังไม่รู้ตัวนั้น เขาต้องการ เพียงแค่คนที่รับฟังเขา ให้เขาได้ระบายเท่านั้น เหมือนเขายังคงจมเจ่าอยู่กับความอยากพยายามดิ้นรนให้สมหวัง ยังคงอยู่ในพวังที่คล้ายความฝันเฝ้าจินตนาการ ย้ำคิดถึงแต่เรื่องที่สูญเสีย หรือสิ่งที่ต้องการอยากให้เป็น อยากได้คืนมา สลับกับการเผลอตัวคิดถึงสิ่งที่เคยมี
ผมขอบอกเลยว่า ความอยากหายเท่านั้น ที่จะช่วยฉุดให้คุณขึ้นมาจากนรกของคืนวันอันโหดร้ายได้ อยากหายในที่นี้นั้นหมายถึงความอยากรักษาอาการ ทุกข์ใจนี้ให้หาย โดยที่ไม่พึ่งในสิ่งที่มันเป็นไปไม่ได้ อย่างเช่นความเพ้อฝันอยากย้อนคืน อยากพยายามดิ้นรนให้อะไรมันเป็นเหมือนเก่า เหล่านี้เป็นต้น
ซึ่งความอยากหายที่ผมหมายถึงนั่นก็คือ ความอยากหายได้ด้วยตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
หากจิตใจอันแท้จริงของคุณไม่ตั้งใจต่อความอยากหาย คุณจะไม่มีทางที่จะหลุดจากความทรมานได้เลย วันเวลาที่ต้องใช้บรรเทาจะยิ่งยาวนานมากเหลือเกิน หรือแม้แต่เวลาก็ไม่อาจบรรเทาได้ และแผลร้ายนั้นมันจะแอบลึกในใจคุณตลอดไป
ดังนั้น ขอให้คุณท่องเอาไว้ให้หนักแน่นที่สุด เป็นพื้นฐานขั้นแรกเลยว่า คุณจะต้องหาย คุณมีความอยากหาย คุณต้องการที่จะรักษาตัวให้หาย คุณจงท่องคำเหล่านี้เอาไว้
แม้ว่ามันอาจจะยังไม่สามารถช่วยอะไรคุณได้มากนักในช่วงแรกๆ แต่นี่ล่ะเปรียบดั่งแสงเทียนน้อยๆในหนทางมืดมิดที่คุณต้องกำมันเอาไว้อย่างปล่อยไม่ได้เด็ดขาด
ผมเองนั้นในคืนวันที่เลวร้ายหดหู่ซึมเศร้า ของผม ผมก็ท่องและตระหนักถึงความอยากหาย ทั้งๆที่ตัวเองยังทรมานเหลือเกิน แต่ทว่า แต่ละวันแต่ละคืนผ่านไปผมก็ยังท่องมันไม่เคยทิ้ง เมื่อวันคืนผ่านไปเรื่อยๆผม ยิ่งศรัทธาต่อความอยากหาย ผมยิ่งตั้งใจต่อความอยากหาย
และขอให้คุณสั่งสอนตัวเองด้วยถ้อยคำหนักๆใส่กับตัวเอง อย่างเช่น เราต้องสำเหนียกตัวเอง เราต้องเลิกโง่ เราต้องเลิกดัดจริต หลอกตัวเอง และจากนี้ไป เราต้องยอมรับความเป็นจริงของโลกนี้ว่า สิ่งที่สูญเสียหรือสิ่งที่ผิดพลาดไปมันไม่มีทางได้ย้อนคืน การที่เราจะรักษาตัวให้หายนั้น เราต้องไม่พึ่งในสิ่งที่อ่อนแอ เราต้องไม่พึ่งในสิ่งใดๆจากผู้อื่น เพราะเรื่องของอาการซึมเศร้าหดหู่นี้ ผู้ที่จะช่วยตัวเราได้ นั่นก็คือตัวเราเองเท่านั้น มันคือเรื่องจริงที่สุด ย้ำ! มันคือทางเดียวและมันคือเรื่องจริงที่สุด
นี่ล่ะคือด่านสำคัญ คุณต้องรวบรวมใจให้ได้แบบนี้ คุณต้องมีใจฮึกเหิมที่ จะจัดการกับปัญหาต้นขั้ว มากกว่าจะคอยพึ่งพิงในสิ่งที่เหมือนยาเสพติดหล่อเลี้ยง หากคุณรวบรวมใจได้มันจะเป็นก้าวแรกอันสำคัญที่จะนำสู่การฟื้นคืน
คิดง่ายๆว่า สิ่งที่มันพังสิ่งที่มันกำลังเสียหาย ต้องการการซ่อมแซมนั้น หากเจ้าของไม่มีความรู้สึกอยากจะแก้ไขให้หายอยากจะซ่อมแซมมันแล้วมันจะหายได้อย่างไรกันเล่า ?
แต่ปัญหาก็คือตัวเราจะทำอย่างไรให้เกิดความจริงใจในการอยากหายได้อย่างแท้จริง นั่นล่ะคือสิ่งที่คุณจะต้องรวบรวมใจให้ได้ในระดับที่ถ่องแท้
เนื้อหาข้อเขียนในบทความเขียนโดย
setmem.com