จงปลูกฝังปฏิกริยาต่อแวดล้อมและวัตถุใหม่

จงปลูกฝังปฏิกริยาต่อแวดล้อมและวัตถุใหม่ สมองและประสาทสัมผัสของมนุษย์เรา มีการทำงานได้ในลักษณะของการประมวลผล ที่สร้าง ปฏิกริยา ต่อการสัมผัสหรือพบเห็นสิ่งต่างๆได้จากการปลูกฝังอันเคยชิน และทำงานอย่างรวดเร็ว อัตโนมัติ ในคู่รักหลายคู่มักมีการปลูกฝัง ในด้านความสัมพัณธ์ระหว่างสองคนอยู่หลายเรื่องไม่น้อย อย่างเช่นว่า เมื่อเจอของที่คนรักชอบ เจออาหารที่คนรักชอบ เจอสถานที่ที่คนรักชอบหรือเคย ชอบด้วยกัน เจอสิ่งที่เคยทำอะไรต่อมิอะไรด้วยกัน และสิ่งเหล่านี้เอง ในวันที่หวานชื่นมันสร้างความสุขอิ่มเอมหัวใจเหลือเกิน แต่ในวันที่เลิกรา มัน กลับกลายเป็นสิ่งที่ย้อนมาทำร้ายจิตใจให้หดหู่อ้างว้าง และยิ่งสำหรับคนที่กำลังพยายาม แก้ไขตัวเองให้หายจากความเศร้าโศกเสียใจ แต่ทว่าเมื่อพบ เจอสิ่งเหล่านี้ก็เหมือนกับเจอ การขัดขวางเจอการบั่นทอน และการที่คนเราจะสร้างจิตใจให้แข็งแรง จำเป็นอย่างที่สุดที่ควรต้องตระหนักถึงอะไรก็ตามที่จะ สามารถมาพัง จิตใจที่เราอุส่าต์สร้างมาไว้อย่างดี ได้แบบง่ายๆและเสียแรงที่อุส่าต์ทำใจมามาก มาย การสร้างจิตใจควรจะเหมือนกับการสร้างบ้าน บ้านที่ควรต้องมีรากฐานและโครงสร้างที่แข็งแรง อันมิใช่เป็นเหมือนแค่ประสาททรายที่ก่อขึ้นตามชายหาด…

ความฝืนและความล้ายิ่งเติมความเจ็บปวด

ความฝืนและความล้ายิ่งเติมความเจ็บปวด ภาวะอกหักซึมเศร้ารุนแรงอันเนื่องมาจากเนื้อหาที่เจ็บปวด  บางครั้ง คืนวันที่ผ่านไปยิ่งรู้สึกแย่ทรมาน ผู้คนมากมายมักเข้าใจไปว่า สาเหตุของความทรมานคือเพราะ มาจากเนื้อหาเรื่องราวที่ตนเองพานพบ แต่แท้จริงแล้วยังมีปัจจัยอีกบางประการที่ซ้ำเติมให้ความรู้สึกของคุณยิ่งหดหู่ โดยที่คุณอาจไม่ทันรู้ตัวเลยว่ามีอะไรที่แทรกซึมเข้ามาเพิ่มให้คุณเป็นแบบนี้ คำตอบก็คือ ความเหนื่อยล้า อันเนื่องมาจากความฝืนนั่นเอง ที่เป็นเครื่องปรุงสำคัญที่ยิ่งทำให้คุณรู้สึกหดหู่มากขึ้น และมนุษย์มักไม่ค่อยจะรู้ตัวเองซะด้วยในภาวะที่ตนเอง กำลังตรากตรำฝืนล้าร่างกายตนเองไปมากเพียงใด โดยเฉพาะในช่วงชีวิตวันเวลาที่ใช้ไป กับการตกอยู่ในภวังค์ จิตใจเลื่อนลอย  ยิ่งคิดยิ่งฟุ้งซ่าน ยิ่งคิดยิ่งเวียนวน แทบไม่รู้คืนรู้วันเวลานาที และย่อมที่จะมักไม่รู้ว่าตัวเองตรากตรำร่างกายไปนานเพียงใดแล้ว ร่างกายมนุษย์หากต้อง ถูกสภาวะทรมานสังขาร ตรากตรำในบางสิ่งเรื้อรังยาวนานมากเกินไป โดยเฉพาะกับเรื่องของการอกหัก ที่มีภาพวันวานมากมายชวนให้ตกอยู่ในห้วง ภวังค์แห่งจิต ยิ่งคิดยิ่งหยุดไม่ได้ ยิ่งคิดยิ่งอยากแก้ไข อยากย้อนคืน อยากได้คืน  ยิ่งอยากพยายาม ยิ่งพยายามยิ่งฝืน ยิ่งฝืนยิ่งล้า…

ยิ่งทระนงยิ่งไม่ยอมรับตัวเอง จะยิ่งหลงทาง

ยิ่งทระนงยิ่งไม่ยอมรับตัวเอง จะยิ่งหลงทาง อาการทระนง และไม่ยอมรับความอ่อนแอของตนเองเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับหลายๆคน หลายสิ่งหลายอย่างภายในจิตใจทั้งที่รู้ตัวเองอยู่ลึกๆและทั้งที่ไม่รู้ตัวเองไม่ยอมรับตัวเองนั้น ในคืนวันแรกที่คนเราเสียใจ  มักจะปากแข็งใจแข็งไม่ยอมรับอาการต่างๆในจิตใจตนเอง และคนอกหักในระยะเริ่มแรกที่ยังสับสน ก็มักจะเป็นแบบนี้ ไม่อยากมองเห็นตัวเองแพ้ไม่อยากมองเห็นตัวเองอ่อนแอ ไม่อยากมองเห็นตัวเองหวั่นไหว แต่ในที่สุดความเก็บกดของคืนวันแสะสถานการณ์ที่มากขึ้น มันมักจะทำให้ผู้คนยอมแพ้ที่จะเผยความเป็นจริงออกมา หลายคนที่กลั้นน้ำตาอยู่นานพอสกัดไม่อยู่กลับกลายเป็นอ่อนแออย่างมากมาย ราวกับคนขวัญเสีย กลับกลายเป็นคนที่อารมณ์แปรปรวนอย่างหนักควบคุมตัวเองไม่ค่อยได้ แท้จริงแล้ว การแสดงออกมาถึงความเป็นจริงที่เกิดขึ้นกับตัวเรา นั้นคือหนทางที่เกิดประโยชน์ในการแก้ไขบำบัดเยียวยาจิตใจ เพราะหากเราปิดบัง ภาวะอาการทั้งหมดภายในจิตใจนั้นย่อมไม่เกิดการแก้ไขรักษา รวมถึงการเรียนรู้เข้าใจ และที่สำคัญ หากว่าตัวเรายอมรับสภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้นกับเรา เราก็จะสามารถจัดการกับอาการเริ่มแรกนั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นแบบแผนขั้นตอน เช่นว่าเรารุ้ตัวเองว่าเราแคร์ในสิ่งใดและเรายอมรับตัวเอง เราก็จะได้โอกาสที่จะสอนตัวเองให้เรียนรุ้ที่จะทำใจและปรับทัศนคติใหม่   แต่หากเราไม่ยอมรับตัวเองแล้วล่ะก็ สิ่งต่างๆจะสะสมอยู่มากมายและอัดอั้นระเบิดออก อารมณ์สารพัดที่ซับซ้อนจะพรั่งพรูออกมา อย่างรับมือได้ยากขึ้นมาก และเสียใจหนัก หากคุณกำลังเริ่มรู้สึกสับสนและกำลังเผชิญกับอาการอกหักในระยะแรก จงรีบสังเกตุตัวเองด้วยความเป็นจริงและตามติดคอยช่วยเหลือจิตใจของตนเองทุกระยะ แต่ขอให้ตระหนักอยู่เสมอว่าการเผยออกมานั้น…