การรักษาใจในยามอกหักถึงขั้นโรคซึมเศร้า 2

Tagged:

การรักษาใจในยามอกหักถึงขั้นโรคซึมเศร้า 2

จากบทที่แล้วที่เราได้กล่าวถึงภาวะอาการในระยะที่1 ซึ่งคุณจะต้องฝึกฝนใจยอมรับ ความเป็นจริงและเลิกดึงรั้ง เวียนว่ายอยู่ในวังวนของปัญหา

ฉุดดึงตัวเองออกมาอย่างผู้มีใจ ที่จะเริ่มทำใจ  และเริ่มบำบัดรักษาตัวเองให้ได้ จากนั้นคุณจึงจะเริ่ม ดำเนินการในลำดับที่2ต่อไป จงจำเอาไว้ว่า มันไม่มีทางที่คุณจะรักาาใจตัวเองได้เลย

ตราบที่วันนี้คุณยังไม่มี แรงปราถนาอย่างเต็มเปี่ยมในการที่จะ ลืมเรื่องราวเลวร้ายและตั้งใจรักษาตัวเองอย่างจริงจังนับแต่นี้ไป

หากคุณสามารถเข้าใจและพร้อมแล้วที่จะมีแรงตั้งใจที่จะ ทำใจกับเรื่องนี้ให้ได้ และคุณยังมีสติที่เข้ามาในจิตใจของคุณอยู่บ้าง

แม้ว่าในบางเวลาคุณจะเผลอตัวฟุ้งซ่านไปบ้างก็ตาม

แต่เมื่อคุณสามารถก้าวมาถึง การบำบัดรักษาในขั้นที่2นี้ได้ นั่นก็ถือว่าน่ายินดีบ้างแล้วที่คุณเริ่มมีใจที่จะยอมรับความเป็นจริง

Sneezing cute woman

 

การรักษาในขั้นที่2 นี้คือการต่อสู้กับอาการเผลอใจ  ใจที่ยังชอบเผลอวนเวียนคิดภาพความหลัง ใจที่ยังเปราะบางหวั่นไหวง่ายเวลาเจออะไรที่ทำให้ระลึกถึง และใจที่ยังเปี่ยมด้วยอารมณ์แห่งความอินต่อบรรยากาศความหลัง และตราตรึงในสิ่งที่พึ่งผ่านมา

ซึ่งนับจากนี้ไปคุณจำเป็นที่จะต้อง เรียนรู้วิธีการบำบัดรักษาตัวเอง ซึ่ง มีหลายๆเรื่องที่คุณจะต้องเรียนรู้ การรักษาในลำดับต่อไปนี้นั้น คือการเรียนรู้ข้อคิดและหลักปฏิบัติต่างๆ ที่มีทั้งในเวปแห่งนี้และที่อื่นๆ ที่จะช่วยสอน

ให้คุณมีความเข้าใจ ในทางออกที่ดีของชีวิตมากขึ้น ขอให้คุณตั้งใจศึกษาให้มากๆ

 

 

แต่ สิ่งที่จะขอฝากไว้ใน ขั้นตอนเหล่านี้ นั่นก็คือขอให้ระวัง  สถานการณ์บางอย่างในช่วงนี้   เพราะมันจะมีภาวะจิตใจล่อลวงให้คุณหลงทางได้ โดยคุณต้องพึงระวังรูปการณ์เหล่านี้ ดังต่อไปนี้คือ

สงบ-3

1.ผู้คนที่ถือโอกาสตอนคุณอ่อนแอเปราะบาง และขี้เหงาอย่างรุนแรง ถือโอกาสเข้ามาจีบคุณ ซึ่งถ้าคุณขาดสติและปัญญาคุณอาจจะต้องเจอสิ่งไม่ดีที่เข้ามาซ้ำเติมชีวิตคุณได้ง่าย หากว่าเขาเป็นแค่พวกที่ฉวยโอกาส มองหาคนที่อ่อนแอและโหยหาความรัก ขอให้คุณเชื่อว่า จิตใจที่มีสติเท่านั้นที่พร้อมจะเผชิญเรื่องรัก ขอให้คุณหลีกเลี่ยง การเผชิญ ในขณะนี้ที่คุณยังต้องรักษาตัวเองอีกมาก จริงอยู่ความรักใหม่นั้นอาจเป็นสิ่งที่ช่วยฟื้นฟูจิตใจ แต่นั่นก็เป็นภาวะที่เสี่ยงมากๆหากคุณต้องเจอกับคนไม่ดีที่แค่คิดเอาเปรียบ  โดยเฉพาะ ในช่วงที่ระบบความคิดและอารมณ์รู้คิดแยกแยะของคุณนั้นยังไม่ฟื้นตัวสมบรูณ์

 

สงบ-5

 

2.เพื่อนฝูงที่ถือโอกาสเข้ามาชักชวนคุณไปเที่ยว ไปสนุกสนานเฮฮา โดยอ้างว่าช่วยทำให้ใจคุณดีขึ้น

โดยคุณควรตระหนักและพินิจให้ดีว่า สิ่งสนุกเหล่านั้น มีอบายมุขหรือไม่  มีสิ่งมอมเมาชีวิตให้ถอยหลังเสื่อมต่ำลงหรือไม่ และขอให้คุณเข้าใจให้ดีว่า  ปัญหาในจิตใจ มิใช่สิ่งที่คนเราจะหนีมันได้  การแสร้งไม่รับรู้แล้วออกไปเที่ยวสำราญมากเกินควรนั้น มันจะทำให้คุณหนีความจริง หนีแผลในใจซึ่งมันจะยังคอย แอบเป็นแผลใจตามหลอกหลอนคุณตลอดไป และการที่คุณหนีมัน ไปทำอย่างอื่นหรือเอาแต่สนุกสนานเฮฮามากเกินไป หรืออยู่กับเพื่อนมากไป มันจะทำให้คุณขาดสมาธิ ที่จะจัดการกระบวนการบำบัดจิตใจตนเอง

คุณต้องตระหนักให้ดี ว่าโรคซึมเศร้ามันเป็นโรคที่แสดงอาการอยู่ภายใน โดยที่คนภายนอกมองมันไม่เห็น ดังนั้นคุณต้องรู้ตัวเอง  ซึ่งการที่คุณยังไม่หายดีพอ นี้คุณจำเป็นเหลือเกินที่จะมีสภาพแวดล้อม ที่มีสมาธิ ซึ่งเป็นกระบวนการที่ต้องใช้ การ อยู่กับตัวเอง และมีสมาธิ สังเกตุปัญหาในจิตใจและแสวงหาปัญญา

รวมทั้งฝึกฝนการปรับสภาพอารมณ์  ซึ่งคุณต้องการสภาพแวดล้อมที่สงบ มันเป็นความเป็นจริงที่คุณจำเป็นที่จะต้องเข้าสู่กระบวนการเหล่านี้  อย่ามองว่ามันเป็นสิ่งยุ่งยาก อย่าใช้อารมณ์ขี้เกียจ  เพราะมันพร้อมที่จะมากำเริบทำร้ายให้คุณเจ็บปวดใจได้ อยู่บ่อยๆเสมอตราบที่คุณไม่รักษาตัวเองอย่างจริงจัง

จงตระหนักว่า แม้แต่ผู้ป่วยอุบัติเหตุหรือความบาดเจ็บภายนอกนั้น  ก็ยังต้องยอมรับกระบวนการรักษา

และในภาวะที่จิตใจของคุณกำลังบกพร่อง มีเรื่องมากมายที่อัดอั้นคาใจ  มีความสับสนในจิตใจอยู่เต็มไปหมด ภาวะแบบนี้ล่ะที่ ยิ่งคุณมัวฝืนตัวเองไปทำในสิ่งอื่นๆ มันอาจไม่ทำให้คุณลืมปัญหา แต่มันจะยิ่งก่ออารมณ์ที่สับสนมากขึ้น เหมือนของเน่าเสียที่ไม่ได้รับการจัดการและจะยิ่งเน่าเสีย

จริงอยู่ว่ามีความเชื่อกันว่า ไม่ควรให้ผู้ป่วยอยู่คนเดียว ควรมาช่วยกันดึงผู้ป่วยไปเที่ยวไปเฮฮา ไปทำให้ลืม อย่าให้มีจังหวะได้คิด

แต่จงรับรู้ไว้ว่ามันมักไม่ได้ผล สำหรับความรุนแรงทางจิตใจที่เป็นถึงขั้นซึมเศร้า และกลับกันมันมีแต่จะทำให้ผู้ป่วยสับสนและแอบสุมปัญหาไว้ในจิตใจมากขึ้น

ขอให้ตัวผู้ป่วยโรคซึมเศร้า จงตระหนักว่า เรามิใช่จะอยู่กับตัวเองเพื่อหมกมุ่นอดีต แต่เรากำลังมีเจตนาที่จะรักษาตัวเอง อย่างมีสมาธิในการรักษา ดังนั้นเราจำเป็นที่จะต้องได้เวลาส่วนตัวที่อยู่กับตัวเอง พอ

สมควรด้วย

สงบ

 ในขั้นที่2นี้ คุณจะต้องจัดการกับสภาพแวดล้อมรอบตัวและจัดการเรื่องของเวลาและสมาธิให้เหมาะสม  ต่อการรักษาตัวเอง  หลีกเลี่ยงสิ่งกระทบกระเทือนใจ ไม่ว่าสถานที่ เหตุการณ์ หรือเพลงและภาพ หรืออะไรก็ตามที่จะมาชักจูงให้จิตคุณเตลิดได้    ซึ่งในช่วงที่ใจคุณยังบอบช้ำอ่อนแออยู่นี้  ก้ยังคงจำเป็นที่จะต้องหลีกเลี่ยงหลบสิ่งเหล่านี้ไปก่อน

จากนั้นค่อยๆฝึกฝนพัฒนาความรู้คิด  ฝึกฝนการปรับอารมณ์ และฝึกฝนการบำบัดจิตใจตัวเอง

จากนั้นจึงค่อยๆเริ่มเผชิญกับสิ่งภายนอกได้ทีละขั้นๆไปตามลำดับ

Assistance (with clipping path)

จากนี้ไปขอให้คุณจงตั้งใจ เภาวนาในจิตใจ กระตุ้นกำลังใจให้กับตัวเองว่า ฉันจะต้องหายจากโรคซึมเศร้านี้ให้ได้

ขอให้คุณมีแรงใจที่จะศึกษาสิ่งต่างๆ จากนี้ไป ขอให้คุณผ่านไปให้ได้ เราจะขอเป็นกำลังใจ ให้กับคุณ

 

 

เนื้อหาข้อเขียนในบทความเขียนโดย นาย เจ็ดผู้ว่าง่าย  setmem.com

setmem.com ที่แห่งการแบ่งปัน  ปรึกษา รักษา ความเครียด กลุ่ม รักษา โรคซึมเศร้า ที่แห่งการประคอง เข้าใจ และร่วมกันก้าวผ่านฝันร้ายๆ สู่วันที่ฟ้าสดใสและเข้าใจชีวิต

Leave a Comment

Your email address will never be published or shared and required fields are marked with an asterisk (*).