หยุดซักซ้อมใคร่ครวญหาความถูกผิด

Tagged: , , ,

หยุดซักซ้อมใคร่ครวญหาความถูกผิด

อาการซักซ้อมความคิด ไตร่ตรองหา ความถูกผิด คือลักษณะที่เป็นกันมากสำหรับผู้ ที่อกหักร้างรา เลิกกัน หรือถูกทิ้ง อันเนื่องมาจากสิ่งที่ไม่ลงรอยกัน

ผู้ที่ติดอยู่ในอาการนี้มักจะชอบย้ำคิด  ทบทวนไตร่ตรอง หยิบจับรายละเอียดต่างๆในเรื่องที่ผ่านมา เฝ้าใคร่ครวญ ว่าอะไรเป็นเพราะอะไร  เรื่องที่เกิดขึ้นต่างๆใครผิด?

บางราย ชอบที่จะย้อนเวลา ไปตามเก็บสิ่งที่เป็นเรื่องที่ตนเป็นฝ่ายถูกมาสะสมเอาไว้ และรวบรวมความผิดของฝ่ายตรงข้าม

บางราย ชอบที่จะโทษตัวเอง เอาเรื่องราวต่างๆมาปะติดปะต่อขบคิด แล้วเก็บรายละเอียดต่างๆที่คิดว่าตนเองเป็นฝ่ายผิดแล้วเอามาโทษตัวเอง เสียใจคร่ำครวญ

บางรายเฝ้าย้อนคิดเรื่องเดิมๆทวนไปทวนมาอยู่ตลอดเวลาเพื่ออยากจะรู้สาเหตุของสิ่งต่างๆ และมักจะโทษไปทุกอย่างที่เกี่ยวข้องไม่ว่าตัวเอง หรือฝ่ายตรงข้าม หรือแม้แต่ผู้คนอื่นๆ

ไตร่ตรอง-3

สภาวะต่างๆที่เกิดขึ้นนี้ ไม่ใช่การแก้ไขจิตใจให้ดีขึ้นได้แต่อย่างใด มีแต่จะเลวร้ายลง และเป็นคนจำจดปักใจเชื่ออยู่กับความคิด สะสมความโกรธความแค้นความเกลียด สะสมความหดหู่สะสมความเศร้า สะสมความหมดอาลัยตายอยาก

โดยเฉพาะอาการแบบนี้จะเป็นกันหนักมาก ในรายที่ถูกคนที่ตัวเองรัก กำลังปั่นหัว!

ปั่นหัว ด้วยคำลวง

 

แท้ที่จริงแล้วในหลายเคสพบว่า การเลิกกัน ในลักษณะที่อีกฝ่ายแอบไปมีรักใหม่ แอบเบื่อและอยากเลิก

มักจะเกิดรูปการณ์ในลักษณะที่ อีกฝ่ายใช้คำลวงอ้างสาเหตุต่างๆนาๆ มาเป็นข้ออ้าง ทั้งที่แต่ไหนแต่ไรมาตัวเขาไม่ได้รู้สึกถือสาในเรื่องบางเรื่อง แต่พอจะเอามาเป็นเรื่องก็เสแสร้งเป็นถือสา

และเมื่ออีกฝ่ายถูกคนที่ตนเองรัก อ้างข้ออ้างต่างๆ    ก็มักจะช๊อค เสียใจไปคิดใคร่ครวญไตร่ตรอง หาเหตุผลมาโต้เถียง อยากจะหาเหตุผลมาแก้ตัว อยากจะหาเหตผลมาอธิบาย ใช้เวลาเป็นวันคืนไปกับความหดหู่กลัดกลุ้ม ความกลัวสูญเสีย เพื่อจะหาคำตอบ หาคำตอบเพื่อมาอุทร วิงวอนเขา

แต่แล้วเมื่อได้ข้ออธิบายที่ดีแล้วเอามาบอก เอามาอุทรณ์ เอามาวิงวอน ให้คนที่ตนรัก  สิ่งที่ได้คือ อีกฝ่ายก็จะแถไปเรื่อยๆ อ้างไปไม่สิ้นไม่สุด  หรือแม้เขาจนแต้มจนถึงจุดที่เถียงต่อไม่ได้ เขาก็ไม่แคร์ที่จะเผยความจริงว่าไม่รัก ก็คือไม่รัก

สถานการณ์แบบนี้เป็นสถานการณ์ที่ทรมานมากๆ  หากว่าไม่ใช้ปัญญาใช้สติก็จะถูกปั่นหัวได้โดยง่ายไม่สิ้นไม่สุด พอฝ่านหนึ่งอ้างเรื่องหนึ่งอีกฝ่ายก็ไปนั่งครุ่งคิด จิงจังในคำพูดของเขา

ไตร่ตรอง-2

นอกจากนี้การย้ำคิดย้ำไตร่ตรอง หาความถูกผิดก็ยังเกิดขึ้นได้แม้กับใน สถานการณ์ที่ไม่ได้ถูกปั่นหัว และเลิกลากันไปแล้ว บางรายนั้นเลิกรา จบกันไปนานแล้ว แต่ยังคงชอบเผลอใจย้ำคิดไตร่ตรอง

ไตร่ตรองว่าใครเป็นคนผิด ไตร่ตรองว่าอะไรมันเป็นยังไง

การไตร่ตรองไม่ได้ช่วยอะไรคุณได้เลย  กับสิ่งที่ผ่านไปแล้วไม่อาจเปลี่ยนแปลงอะไรได้

มันเป็นสภาวะจิตที่หลงลืมความจริง อยากจะย้อนเวลาไปแก้ไข อยากจะหาเหตุ และก็มานั่งเสียดายในเรื่องต่างๆ ที่อยากจะไปเปลี่ยนแปลง

ซึ่งพวังความคิดแบบนี้นอกจากไม่เกิดประโยชน์แล้วมันยังจะทำให้คุณหมกมุ่นคลุกคลียึดติดกับอดีตอีกด้วย มันจะทำลายความสนใจต่อสิ่งต่างๆในปัจจุบันไปตกอยู่ในพวังรสชาติของวันเก่า

การไตร่ตรองมันไม่ได้ให้อะไรที่ดีขึ้นมาเลย นอกจากขุดคุ้ย และขบคิดในสิ่งที่ไม่ก่อเกิดประโยชน์

และไม่มีสาระสำคัญอันใดเลยสำหรับชีวิตใหม่ๆ  จงจำเอาไว้ให้มั่นว่า จงนำเอาสมองเอาความคิดเอาอารมณ์มาสรรค์สร้างปัจจุบันให้ดีขึ้น มันคือสิ่งที่เป็นหนทางสุขอันแน่นอนกว่าการ ที่จะย้อนคิดเรื่องเก่าหาคำตอบอันใด

Leave a Comment

Your email address will never be published or shared and required fields are marked with an asterisk (*).