การเพ่งมองจิตใจทุกข์เศร้า ให้มองเห็นเป็นสารเคมี

Tagged: ,

การเพ่งมองจิตใจทุกข์เศร้า ให้มองเห็นเป็นสารเคมี

 

หลักวิธีการเพ่งมอง รูปของอารมณ์ความคิดและจิตใจเป็นสารเคมีนั้น  คือหลักวิธีที่มีประสิทธิภาพมากและเข้าสู่สภาวะการมองเห็นความเป็นจริงในอีกด้านได้มากขึ้น

วิธีการนี้นั้นก็คือ  คุณต้องฝึกมองเห็นจริง ในภาวะของมนุษย์ มนุษย์ที่มีความคิดอ่าน มีความรู้สึกเศร้าเสียใจดีใจ มีอารมณ์ต่างๆ  ระบบของร่างกายก็จะเกิดภาวะต่างๆขึ้น เช่นการหลั่งสารเคมีในประสาทสมอง การมีคลื่นไฟฟ้า การปรับเปลี่ยนสภาวะทางเคมี

เวลาที่คุณเศร้ากับเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่กำลังกลัดกลุ้มปวดใจมากๆ โดยปรกติแล้วมนุษย์เรามักจะ ใช้ระบบความคิดต่างๆเข้าจัดการกับระบบความคิดของตัวเอง เช่นการใช้เหตุผลต่างๆในด้านบวก  การใช้คำพูดปลอบใจ การใช้คำพูดหรือความคิดในเชิงให้กำลังใจตนเองเหล่านี้เป็นต้น สิ่งนี้เรียกว่ากระบวนการแก้ไขตามวงจรความคิดของมนุษย์

แต่หากคุณเลือกการบำบัดด้วยการฝึกมองรูปอารมณ์ ให้เห็นเป็นสารเคมีด้วย ก็จะช่วยให้คุณบำบัดจิตใจตนเองได้เร็วขึ้น

ความเครียด

วิธีก็คือในขณะที่คุณกำลัง กลัดกลุ้มใจ ให้คุณลองสงบใจจากเรื่องราวต่างๆสักชั่วระยะเวลาหนึ่ง หลับตาตั้งสมาธิสังเกตุอาการของตนเอง โดยมองให้เห็นเป็นรูปอารมณ์ ว่ามันมีรสชาติอะไร มันหวิวๆ หรือ?  มันวูบวาบตรงไหน?  เส้นเลือดมันวิ่งอย่างไรในหัวสมองของคุณและที่หน้าอกของคุณ คุณสงบจิตให้รู้สึกได้ถึงสิ่งเหล่านี้  แม้ว่าสิ่งเหล่านี้อาจจะไม่สามารถใช้ภาษามาบรรยายกำหนดมันได้

แต่ก็ขอให้คุณตั้งใจสังเกตุการโคจรของระบบเลือดลมในร่างกาย การหายใจและความรุ้สึกที่ วูบวาบหรือร้อนรุ่มในจิตใจ โดยยังไม่ต้องเอาภาษาอะไรความคิดอะไรมาคิดในสมอง

เมื่อคุณฝึกพิจารณาจนชำนาญ พิจารณาจนเริ่มรู้จักอาการของมันดีแล้ว เข้าใจรูปรสของมัน เข้าใจกระบวนการหลั่งสารเคมีในร่างกายในยามเครียดกลัดกลุ้มได้ดีแล้ว

จึงค่อยๆกำหนดใจ ไปจัดการกับระบบร่างกายทีละจุด เช่น เริ่มจากสังเกตุระบบหายใจแล้วพบว่าไม่ดีนัก ก็ให้ค่อยปรับระบบการหายใจให้ปรกติ และสังเกตุต่อไปยังจุดหัวใจหรือหน้าอก  หัวใจที่เต้นเร็วเพราะความเครียด หรือความรู้สึกวูบวาบที่หน้าอก  หรือความเคร่งของเส้นประสาทที่ขมับหรือหัวคิ้วที่เกิดแรงเครียดเกร็งตัว ก็ให้ตั้งใจปรับสภาพร่างกายในส่วนนั้น ให้ทำงานให้ปรกติให้ได้

Forearms

ซึ่งจะขอยกตัวอย่างคนเราเวลาตื่นเต้นตกใจกลัว คนๆนั้นมักจะมีหัวใจที่เต้นเร็วมือไม้สั่น แต่หากเจ้าตัวมีสติรู้ตัวสังเกตุอาการตนเองทันก็จะค่อยสามารถผ่อนปรนอาการเหล่านี้ค่อยๆควบคุมร่างกายตนเองให้อยู่ในภาวะปรกติได้ เรียกภาวะนี้ว่าภาวะการมีสติแล้วหันมาจัดการในจุดที่ไม่รู้ตัว

ดังนั้นภาวะกลัดกลุ้มก็เช่นกัน หากว่าคุณรู้ทันร่างกายและพักรบกับความคิดก่อน และหันมาตั้งสติจัดการระบบร่างกาย คุณจะเริ่มพบว่าตัวเองมีพลังขึ้นมาอีกนิดมีสติเพิ่มขึ้นและมีความสงบเพิ่มขึ้น

และทุกครั้งที่คุณฝึกฝน จับสังเกตุรูปของอารมณ์และกระบวนการทางเคมีที่เกิดขึ้นภายในร่างกาย จนคุ้นเคยชำนาญ มันจะทำให้คุณเก่งขึ้นเรื่อย และเก่งได้มากถึงระดับที่ เนื้อหาในโลกนี้ ไม่ว่าคุณจะต้องเจอกับปัญหาอะไรคุณจะแทบไม่ต้องสนใจ หมกมุ่นกับความคิดเลยว่าเรื่องนั้นมันยังไง ฉันต้องคิดแก้ยังไง ฉันต้องยกเหตุผลอะไรมาบอกตัวเองบ้าง คุณแทบไม่ต้องทำกระบวนการเหล่านั้นมากมายนักเลย   เพราะคุณจะมองเห็นมันเป็นแค่รุปรสทางกระบวนการเคมีในร่างกายของมนุษย์เท่านั้น  และคุณก็ตอบโต้แก้ไขมันด้วยการ จัดการทางระบบเคมีในร่างกาย

เมื่อร่างกายสงบจิตใจดีแล้วมันจะเป็นภาวะที่พร้อมรับ การปลอบใจตัวเองการให้กำลังใจตัวเอง การรวบรวมจิตใจให้ยืนหยัด และการได้สติระลึกตระหนักถึงสิ่งต่างๆ ที่จะทำให้คุณเอาชนะโรคซึมเศร้าได้

ซึ่งวิธีนี้คุณอย่าพึ่งท้อแท้ว่ามันทำครั้งเดียวไม่ได้ผล แต่ขอให้ค่อยๆฝึกบ่อยๆทำไปเรื่อยๆ มันจะช่วยให้กระบวนการบำบัดจิตใจของตนเองนั้นมีประสิทธิภาพและเพิ่มความรวดเร็วในการรักษาตัวเองเป็นอย่างมาก

Leave a Comment

Your email address will never be published or shared and required fields are marked with an asterisk (*).