Tagged: รักษา โรคซึมเศร้า, รักษาอาการทางจิต, รักษาโรคจิต, แก้โรคเครียด, แก้ไขความเคยชิน

ต้องจัดการกับความเคยชิน

ในระบบร่างกายของมนุษย์เรานี้ จะมีลักษณะทางระบบประสาท ชีวะ และเคมีในร่างกายประการหนึ่ง นั่นก็คือ ความยึดติดกับความเคยชิน

มนุษย์เราเวลาต้องทำอะไรที่ซ้ำๆย้ำๆ บ่อยๆหรือคลุกคลีนานๆ ภาวะที่มักจะตามมานั่นก็คือ อาการติด ไม่ว่าจะเป็นอาการจากพฤติกรรมแปลกๆ เช่น ขยิบตา  พยักหน้า หรือบางคนพูดติดอ่าง หรืออาการทั่วๆไปที่ชอบ ทำกริยาแบบหนึ่งในภาวะหนึ่งด้วยความเคยชิน เป็นความติดนิสัย

หรือบางคนติดในวิถีชีวิตที่ต้องทำทุกวันหากไม่ได้ทำแล้วจะรู้สึกตะหงิดๆ ค้างคาหรือ ไม่สบายใจ อย่างเช่น ต้องกินสิ่งนี้ทุกวัน  หรือต้องไปซื้อสิ่งนั้นสิ่งนี้แล้วต้องไปที่นี่ที่นั่นก่อนเข้าบ้าน นี่ก็เป็นอีกอาการหนึ่งที่เป็นการติดในรูปแบบชีวิตประจำวัน แม้ว่าบางครั้งจะรู้สึกว่า ไม่รู้จะทำมันไปทำไมแต่ กลับต้องทำ

บางอาการหากไม่ได้ทำหรือฝืนมัน ระบบสมองและประสาทก็จะส่งรูปของอารมณ์ความทรมานต่อความอยากทำ เข้ามารบกวน

และที่ยกตัวอย่างเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่อให้คุณได้เข้าใจลักษณะทาง โครงสร้างด้านพฤติกรรม ของมนุษย์โดยทั่วไป ซึ่งแม้แต่สิ่งเล็กๆเรื่องเล็กๆเหล่านี้ยังสามารถ ควบคุมจิตใจได้โดยแทบไม่รู้ตัว

ดังนั้นโดยเฉพาะในเรื่องที่เยอะกว่านั้น อย่างเช่นอาการทุกข์ทรมานซึมเศร้ากับความสูญเสียพรากจากและความเปลี่ยนแปลง ความรู้สึกรับไม่ได้กับการเปลี่ยนแปลง ก็ไม่แปลกเลยที่ระบบความคิดในร่างกายคนเรา ย่อมที่จะพบกับภาวะเหล่านี้

นอกจากนี้ บางสิ่งบางอย่างที่ผู้คนอยากจะเปลี่ยนมัน ไม่อยากจำมันไม่อยากระลึกถึงมัน ไม่อยากสัมผัสไม่อยากแตะต้อง แต่ก็มักควบคุมตัวเองไม่ได้ อยากจะออกจากวงจรความเคยชินความติดนิสัยบางอย่าง แต่ก็ไม่สามารถทำได้โดยง่าย

หากว่าคุณกำลังมีใจที่จะพยายามรักษาอาการของตัวเอง เราขอยืนยันได้เลยว่า  อาการติดนิสัยอาการเคยชิน คือสิ่งที่สามารถรักษาได้ แต่ต้องมีกระบวนการจัดการที่ถูกต้องและเป็นระบบ

ผู้คนส่วนใหญ่มักคิดว่าเรื่องของอาการทางจิตใจ คือสิ่งที่ควบคุมได้ไม่ยาก บางคนคิดว่าตัวเองมีความพิเศษสามารถควบคุมสั่งการจิตใจได้ ก็มักปล่อยปละ และรักษาไม่เป็นระบบ ไม่ต่อเนื่อง จนรักษาไม่หายเรื้อรังหรือแม้แต่ลุกลาม

แท้จริงแล้วอาการเหล่านี้ จำเป็นที่คุณจะต้องให้ความจริงจัง ให้ความตั้งใจและให้เวลา รวมทั้งให้ความสนใจอย่างเคร่งครัด

วิธีแรกของการสกัดความเคยชินนั่นก็คือ

การฝืนให้ได้ การฝืนนั้นในครั้งแรกๆอาจจะค่อนข้างยากอยู่มาก มันเหมือนกับการพยายามเอาท่อนไม้ไปขวางลำน้ำเล็กๆ ที่ต้องออกแรงฮึดพอสมควร คุณต้องฝืนไม่ทำไม่เป็นในสิ่งที่เคยชินนั้นในครั้งแรกให้ได้

คุณต้องมองรูปแบบของกลไกลทางจิตและระบบความคิด เป็นรูปของคลื่นไฟฟ้า เป็นเส้นสายเชื่อมโยงอยู่ในสมองและระบบประสาทของคุณ คุณต้องพยายามจินตนาคิดถึงมัน

วงจรความคิดซึ่งอยู่ในรูปของคลื่นไฟฟ้าในสมองเหล่านี้ มันจะเป็นวงจรที่ทำงานรวดเร็วมาก และมีถนนเส้นทางของมัน ที่สร้างมาจากความเคยชิน และวิ่งวนเวียนเป็นระบบเดิมๆ

การจะพยายามสับเปลี่ยนโยกย้ายวงจรของมัน คุณต้องรวบรวมพลังมากเป็นพิเศษ หากคุณใจแข็งพอ และระงับตัวเองให้ได้ฝืนให้ได้ในครั้งแรกสำเร็จแล้ว สักประมาณไม่กี่นาทีคุณจะสัมผัสได้ถึงความโล่งใจในระดับนึง และรู้สึกได้ถึงพลังในการควบคุมตัวเองที่มากขึ้น

แต่เท่านั้นยังไม่พอ เพราะการต่อสู้มันพร้อมจะกลับมาใหม่ในเวลาไม่นานข้างหน้า และทุกครั้งที่มันกลับมาคุณต้องสู้มันทุกครั้ง ยิ่งระบบคลื่นไฟฟ้าในสมอง รับรู้ความเคยชินในทางที่ถูกมากเท่าไหร่ มันจะสามารถควบคุมความเคยชินผิดๆและสลัดออกไปได้ในที่สุด  สำคัญแค่ว่าคุณต้องขยันหมั่นเพียรเสริมสร้างความแข็งแกร่ง

และคุณจะปล่อยให้ความเคยชินแบบผิดๆเล็ดลอดออกไปไม่ได้เลย เพราะนั่นคือการเสริมกำลังของฝ่ายศัตรู ซึ่งมันมักจะโผล่มาในภาวะที่คุณไม่สามารถรวบรวมกำลังต่อสู้มันได้ถนัดนัก

อย่างเช่นคุณกำลังคุยกับผู้คน คุณกำลังถูกเรื่องอื่นๆรบกวนจิตใจ  หรือคุณกำลังทำกิจวัตรประจำวัน หรือทำงานหรือเที่ยวเล่น  จังหวะนั้นเองคือจังหวะที่จิตใจคุณไม่คมชัดในสมาธิ และไม่สงบตั้งมั่น

ขอให้คุณยอมที่จะปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตชั่วคราวสักระยะหนึ่ง ขอให้ระลึกและสังวรเอาไว้ว่าตัวเราคือคนไข้ที่ต้องรับการรักษา  ซึ่งคนไข้อื่นๆต้องนอนโรงพยาบาล แต่โรคชนิดนี้ต้องให้เวลาในวิถีชีวิตที่สงบและเป็นสมาธิ

ขอเพียงแค่คุณจัดวิถีชีวิตสักระยะหนึ่ง อาจจะสัก3วันหรือสัปดาห์หรือเดือนนึง ปรับรูปแบบชีวิตให้มีช่วงเวลาที่ไม่ถูกสิ่งอื่นรบกวน และมีจิตใจที่จดจ่อเฝ้าระวังอาการ ความเคยชินในสิ่งผิดที่จะส่งมาในรูปความอยากทำอยากเป็นอยากนึก  ขึ้นมาในจิตใจ และคุณเตรียมตั้งรับมันไว้อยู่แล้ว คุณมีจิตที่แน่วแน่ และเตรียมพร้อมหลากหลายปัจจัยรับมือมัน ไม่ว่าจะเป็นสมาธิ ไม่ว่าจะเป็นสติ และการทบทวนในข้อคิดที่ดีต่างๆที่จะเลิกละมัน

และใช้เวลาไปกับการกำหนดจิตในด้านบวก ไม่ยอมให้จิตในด้านลบเข้ามาแทรกซึมพื้นที่จิตใจของคุณได้อีก รับรองได้ว่าเมื่อจิตของคุณควบคุมตัวเองได้ดีแล้ว คุณจะรู้สึกได้เลยถึงความสุขล้น และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอีกมากอย่างมหาศาล