ย้อนรอยเหตุการณ์ตากใบ ชนวนเหตุที่ผู้ก่อการร้ายใช้ชักจูงสมาชิก
หลังจากเหตุการณ์บุกค่ายทหารของบรรดาผู้ก่อการร้ายภาคใต้ในวันที่วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2556 จนส่งผลให้คนร้ายถูกตอบโต้เสียชีวิตไปทั้งสิ้น16ศพนั้น ในจำนวนเหล่านั้นมีชื่อของผู้ที่มีประวัติก่อคดีมาแล้วมากมาย และบางคนเป็นถึงระดับแถวหน้า ของขบวนการ แต่ที่น่าสังเกตุก็คือ หลังจากตรวจสอบประวัติลึกลงไป รวมถึงจากการสอบถามข้อมูลจากญาติของผู้ตาย ทำให้พบว่าในจำนวนของบรรดาผู้ที่เข้าร่วม กับกลุ่มขบวนการก่อการร้ายนั้น หลายๆคนมีอดีตที่ฝังใจและได้รับแรงผลักดันจาก กรณีเหตุการณ์ตากใบ
กรณีตากใบนั้นเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2547
เริ่มจากเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการจับกุมชาย6คนซึ่งทำหน้าที่เป็นชุดรักษาความปลอดภัยของหมู่บ้าน ในข้อหายักยอกอาวุธปืนของทางราชการ และแจ้งความอันเป็นเท็จกล่าวอ้างหาว่า ปืนถูกผู้ก่อความไม่สงบชิงไป จึงถูกควบคุมตัวนำมาสอบสวน ถึงสาเหตุที่ยักยอกปืนไปอย่างน่าสงสัย แต่ในระหว่างที่กุมตัวผู้ต้องหาในโรงพักอยู่นั้น ปรากฏว่าได้มีบรรดาชายฉกรรจ์และกลุ่มวัยรุ่นมากมายนับหลายร้อยคนเริ่มรวมตัวล้อมทางเข้าออก ของโรงพักเพื่อกดดันเจ้าหน้าที่ให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาทั้ง6 ซึ่งเมื่อเวลายิ่งผ่านไป จำนวนคนที่โอบล้อมอยู่ก็เพิ่มจำนวนขึ้นถึงเกือบพันคน ซึ่งแม้ว่าทางราชการจะได้ส่ง พล.ท.พิศาล วัฒนวงศ์คีรี แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส มาเจรจาชี้แจง รวมถึงเสนอให้ เชิญคณะกรรมการอิสลามจังหวัดนราธิวาสมาเป็นผู้ไกล่เกลี่ย แต่บรรดาผู้ชุมนุมนั้น ไม่มีท่าทีที่จะฟังสิ่งใดทั้งสิ้น พร้อมกับโห่ร้องปลุกระดมยื่นคำขาดให้เจ้าหน้าที่ปล่อยตัว ผู้ต้องหาทั้ง6โดยทันทีเท่านั้น
ในขณะที่นายอำเภอตากใบ ได้พยายามติดต่อบรรดาผู้ปกครองของกลุ่มคนที่เป็นวัยรุ่น ให้มาช่วยกันกล่อมบุตรหลาน ให้กลับบ้านซึ่งก็ได้ผลในระดับหนึ่ง มีผู้ชุมนุนบางส่วนเริ่มทยอยเดินทางกลับ แต่เหตุการณ์ก็ยังคงมีทีท่าว่าจะรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเมื่อมีผู้ชุมนุมบางส่วนมีการนำอาวุธเข้ามา และบางส่วนมีอาการในลักษณะมึนเมา และเริ่มรุนแรง จนถึงขั้นใช้ทั้งก้อนหิน ใช้ไม้และสิ่งของขว้างปาใส่เจ้าหน้าที่ และไปจนถึงขั้นมีบางคนที่ใช้ปืน จากนั้นเริ่มมีบางส่วนทำการผลักดันจะเข้ามาในเขตุของเจ้าหน้าที่ จึงได้เกิดการปะทะกันอย่างชุลมุนวุ่นวาย รวมถึงทางเจ้าหน้าที่ได้ใช้น้ำแรงดันสูง ฉีดเข้าใส่ผู้ชุมนุม และใช้กำลังตำรวจและทหาร เข้าจับกุมบรรดาหัวโจกหลายๆคน และเข้าควบคุมสถานการณ์ และเมื่อสถานการณ์สงบลง พบว่าผู้ชุมนุมมีผู้เสียชีวิต7คน และเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ14นาย
แต่ทว่าเหตุการณ์จังหวะสำคัญที่ทำให้ยอดจำนวนผู้เสียชีวิตต้องเพิ่มขึ้นอีกถึง78รายนั้น อยู่ที่เหตุการณ์ที่ผิดพลาดอย่างเลวร้ายที่สุด ของทางเลือกในการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ในการเคลื่อนย้ายบรรดาผู้ชุมนุมที่ถูกจับกุมซึ่งมีจำนวนมาก จนรถขนย้ายของเจ้าหน้าที่มีปริมาณที่ไม่พอรองรับ แต่เจ้าหน้าที่นั้นเลือกใช้วิธีให้ผู้ถูกจับกุมขึ้นไปนอนราบต่อกันเป็นชั้นๆ ซึ่งในขณะนั้นผู้ชุมนุมล้วนมีสุขภาพที่อ่อนแออยู่แล้วอันเนื่องมาจาก ในช่วงนั้นเป็นช่วงแห่งการถือศีลอด ในเดือนรอมฎอน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอันเนื่องมาจากแรงกดทับและขาดอากาศหายใจ อย่างมากมาย
เสียงจากสังคมจึงเกิดคำถามวิพากษ์วิจารณ์กันว่า ในกรณีนี้ถือว่า เจ้าหน้าที่กระทำเกินกว่าเหตุหรือไม่
อย่างไรก็ตามในภายหลังหลายปีต่อมา นายทักษิณชินวัตร ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวต่างประเทศ ด้วยเนื้อหาที่ ตัวเองขอยอมรับผิดต่อความผิดพลาดในครั้งนี้ รวมถึงกล่าวตำหนิผู้ปฏิบัติงานว่า ใช้วิธีที่ไม่เหมาะสมไม่สมควรที่จะทำ
ล่าสุด รัฐบาล.ยิ่งลักษณ์ ได้ อนุมัติงบประมาณ 2,080 ล้านบาท เพื่อเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดน ภาคใต้ ตั้งแต่ พ.ศ.2547 ซึ่งมีกรณีตากใบรวมอยู่ด้วย
แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุการณ์ก่อการร้ายในปัจจุบัน อย่างเหตุการณ์บุกค่ายทหารเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์นั้น จากการสืบทราบข้อมูลของผู้ก่อการ ที่ได้รับการเปิดเผยจากครอบครัวของผู้เสียชีวิต พบว่าในจำนวนผู้เสียชีวิต16ศพในเหตุการณ์บุกค่ายทหาร นั้นมี บางคนที่เคยอยู่ในเหตุการณ์ตากใบ และมีพฤติกรรมที่เจ็บแค้นฝังใจจนเปลี่ยนเป็นคนละคน และผูกใจเจ็บจนมาเข้าร่วมกับขบวนการก่อการร้ายด้วย
แต่กระนั้นก็ตาม เสียงจากสังคมยังคงตั้งคำถามถึง ความเจ็บแค้นแล้วเหตุใดจึงต้อง ไปลงกับ ประชาชน ครู และผู้บริสุทธิ์อีกมากมาย รวมถึงในครั้งเหตุการณ์ตากใบ ขณะนั้นเหตการณ์ที่เริ่มรุนแรงมีผู้ชุมนุมหลายคนเริ่มใช้อาวุธ ซึ่งภาพเหล่านั้น จะถูกเหล่าผู้ยุยงให้ประชาชนภาคใต้เกิดความแค้น ได้ตัดต่อภาพเหตุการณ์ที่ผู้ชุมนุมเริ่มก่อความรุนแรงออกไปด้วย และตัดต่อนำเอาแต่ภาพที่ เจ้าหน้าที่บางคนที่ลุแก่อารมณ์ ทำนอกเหนือหน้าที่ทำการทุบตีเหล่าหัวโจกและผู้ชุมนุมแถวหน้า ที่ลากตัวมาได้ นั้นออกฉายซ้ำๆเพื่อสร้างความแค้นให้กับคนที่ชมวีดีโอที่ทำการแพร่กระจาย