หยุดซักซ้อมใคร่ครวญหาความถูกผิด

หยุดซักซ้อมใคร่ครวญหาความถูกผิด อาการซักซ้อมความคิด ไตร่ตรองหา ความถูกผิด คือลักษณะที่เป็นกันมากสำหรับผู้ ที่อกหักร้างรา เลิกกัน หรือถูกทิ้ง อันเนื่องมาจากสิ่งที่ไม่ลงรอยกัน ผู้ที่ติดอยู่ในอาการนี้มักจะชอบย้ำคิด  ทบทวนไตร่ตรอง หยิบจับรายละเอียดต่างๆในเรื่องที่ผ่านมา เฝ้าใคร่ครวญ ว่าอะไรเป็นเพราะอะไร  เรื่องที่เกิดขึ้นต่างๆใครผิด? บางราย ชอบที่จะย้อนเวลา ไปตามเก็บสิ่งที่เป็นเรื่องที่ตนเป็นฝ่ายถูกมาสะสมเอาไว้ และรวบรวมความผิดของฝ่ายตรงข้าม บางราย ชอบที่จะโทษตัวเอง เอาเรื่องราวต่างๆมาปะติดปะต่อขบคิด แล้วเก็บรายละเอียดต่างๆที่คิดว่าตนเองเป็นฝ่ายผิดแล้วเอามาโทษตัวเอง เสียใจคร่ำครวญ บางรายเฝ้าย้อนคิดเรื่องเดิมๆทวนไปทวนมาอยู่ตลอดเวลาเพื่ออยากจะรู้สาเหตุของสิ่งต่างๆ และมักจะโทษไปทุกอย่างที่เกี่ยวข้องไม่ว่าตัวเอง หรือฝ่ายตรงข้าม หรือแม้แต่ผู้คนอื่นๆ สภาวะต่างๆที่เกิดขึ้นนี้ ไม่ใช่การแก้ไขจิตใจให้ดีขึ้นได้แต่อย่างใด มีแต่จะเลวร้ายลง และเป็นคนจำจดปักใจเชื่ออยู่กับความคิด สะสมความโกรธความแค้นความเกลียด สะสมความหดหู่สะสมความเศร้า สะสมความหมดอาลัยตายอยาก…

ต้องจัดการกับความเคยชิน

ต้องจัดการกับความเคยชิน   ในระบบร่างกายของมนุษย์เรานี้ จะมีลักษณะทางระบบประสาท ชีวะ และเคมีในร่างกายประการหนึ่ง นั่นก็คือ ความยึดติดกับความเคยชิน มนุษย์เราเวลาต้องทำอะไรที่ซ้ำๆย้ำๆ บ่อยๆหรือคลุกคลีนานๆ ภาวะที่มักจะตามมานั่นก็คือ อาการติด ไม่ว่าจะเป็นอาการจากพฤติกรรมแปลกๆ เช่น ขยิบตา  พยักหน้า หรือบางคนพูดติดอ่าง หรืออาการทั่วๆไปที่ชอบ ทำกริยาแบบหนึ่งในภาวะหนึ่งด้วยความเคยชิน เป็นความติดนิสัย หรือบางคนติดในวิถีชีวิตที่ต้องทำทุกวันหากไม่ได้ทำแล้วจะรู้สึกตะหงิดๆ ค้างคาหรือ ไม่สบายใจ อย่างเช่น ต้องกินสิ่งนี้ทุกวัน  หรือต้องไปซื้อสิ่งนั้นสิ่งนี้แล้วต้องไปที่นี่ที่นั่นก่อนเข้าบ้าน นี่ก็เป็นอีกอาการหนึ่งที่เป็นการติดในรูปแบบชีวิตประจำวัน แม้ว่าบางครั้งจะรู้สึกว่า ไม่รู้จะทำมันไปทำไมแต่ กลับต้องทำ บางอาการหากไม่ได้ทำหรือฝืนมัน ระบบสมองและประสาทก็จะส่งรูปของอารมณ์ความทรมานต่อความอยากทำ เข้ามารบกวน และที่ยกตัวอย่างเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่อให้คุณได้เข้าใจลักษณะทาง โครงสร้างด้านพฤติกรรม…

ความสุขคือสิ่งสำคัญที่ควรฝึกฝน

ความสุขคือสิ่งสำคัญที่ควรฝึกฝน ความสุขคือสิ่งที่ฝึกกันได้ และจงอย่าใช้สิ่งที่ตัวเองไม่มีความสามารถที่จะทำได้ในขณะนั้นเข้าตัดสินว่านั่นคือสิ่งที่ทำไม่ได้ มนุษย์เรานั้นแต่เล็กแต่เด็ก สุขหลายหลากล้วน เกิดจากการหล่อหลอมปลูกฝัง คนที่มีหัวใจยิ่งใหญ่สามารถมองเห็นความสุขสารพัดเรื่องรอบตัวได้ลึกซึ้ง สามารถมองสุขเล็กๆเป็นสุขที่ใหญ่ได้ สามารถมองความทุกข์ที่ยิ่งใหญ่เป็นเรื่องเล็กได้ สามารถมองเห็นองค์ประกอบสุขในแง่มุมต่างๆที่แฝงมากับเรื่องที่คนอื่นมองว่าเป็นเรื่องใหญ่เรื่องเครียดเรื่องทุกข์ได้ มองเห็นสุขได้สารพัดแง่มุม  ความสุขที่มีค่า ควรต้องมาพร้อมกับความสุขที่ถูกทาง ซึ่งบทเรียนชีวิตจะเป็นสิ่งสอนเรา สอนการพบเห็น และรู้ว่าอะไรคือสิ่งมีค่าที่ควรสุขด้วย อะไรคือสิ่งมอมเมาเลวร้ายหรือสิ่งนำพาความเสื่อมต่ำนำพาความอ่อนแอ ที่ไม่ควรไปสุขด้วย รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ชักจูงไปสู่ความทุกข์อันสุดแสนสาหัส ในภายหน้า คนแบบนี้ใช้ชีวิตได้อย่างคุ้มค่ากำไรชีวิต คนแบบนี้มีหัวใจอันแข็งแกร่งสร้างสรรค์เรื่องมีค่าได้และทนต่อเรื่องลบได้ ความสุขนั้นคือยาวิเศษที่เป็นเกราะปกป้องคุณได้จากเรื่องร้ายๆ อีกทั้งยังเป็นยาที่เห็นผลได้กับระบบร่างกายอย่างน่าทึ่ง

ของขวัญปลอบใจของชีวิตที่อ้างว้าง

ของขวัญปลอบใจของชีวิตที่อ้างว้าง ในยามที่คุณสูญเสียหรือผิดหวังต่อเรื่องใดเรื่องหนึ่ง แม้ว่าคุณจะต้องผ่านช่วงเวลาที่ปวดร้าวเจ็บช้ำ แต่เมื่อคุณพอจะเริ่มหายดีและพอจะมีสติขึ้นมาได้บ้างแล้ว ลองสังเกตุให้ดีๆจะพบว่า อย่างน้อยยังมีโอกาสในหนทางใหม่ที่ดี ที่กำลังเกิดขึ้นกับชีวิตของคุณ  สิ่งที่คุณจะค้นพบได้ประการนึงก็คือ ต่อแต่นี้ไป คุณไม่ต้องครุ่นคิดคำนึงต่อสิ่งที่จากไปอีก   ต่อแต่นี้ไปไม่มีสิ่งนั้นให้คุณต้องใช้เวลาร่วมอีก คุณกำลังได้รับพื้นที่ทางเวลา ที่สามารถจัดการกับสิ่งที่เหลืออยู่ได้เต็มที่กว่าเดิม  นี่ล่ะของขวัญปลอบใจของชีวิตร้ายๆที่ผ่านพ้นไป ลองมองดูซิว่า ในตอนนี้คุณเหลืออะไรบ้าง คุณยังมีอะไรบ้างที่สามารถดูแลให้ดีกว่าเดิม หรือทำให้ดีกว่าเดิมได้ จงไปทำ เมื่อคุณมีพื้นที่ในจิตใจที่ปราศจากเรื่องเก่าๆที่สูญเสียไป คุณมีพื้นที่ของเวลาและความสนใจใส่ใจเพิ่มมากขึ้น คุณมีโอกาสแล้ว ที่จะนำบทเรียนและความอ้างว้างทั้งหมด มาทุ่มสร้างสรรค์ความอบอุ่นทำในสิ่งที่เหลืออยู่ให้ดีขึ้น หรือแม้แต่สิ่งใหม่ให้ดีขึ้น   รวบรวมความที่เคยผิดหวัง รวบรวมจิตใจที่แห้งผาก รวบรวมบทเรียนทั้งหมดและความรู้ที่เข้าใจโลกมากขึ้น  ตั้งใจดื่มด่ำสร้างสรรค์สิ่งที่เหลืออยู่หรือสิ่งใหม่ให้ดีที่สุด  

อย่าให้ความทุกข์เศร้ามาบังอาจทำลายชีวิตเรา

อย่าให้ความทุกข์เศร้ามาบังอาจทำลายชีวิตเรา ในชีวิตของคนเรานั้น ล้วนมีความหมาย แม้ว่าโลกนี้จะมีความทุกข์ปะปน  แต่ก็ยังมีความสุขอีกมากหลาย ที่เราได้เกิดมาและได้สัมผัส บางคนมีโอกาสได้สัมผัส ความรักและการดูแล จากพ่อแม่หรือผู้อุปการะ ได้รับรู้แต่ละสิ่งแต่ละอย่างที่ ผู้คนที่ดีต่อเรานั้นได้มอบให้ ได้ร่ำเรียน ได้รับการสอนสั่ง ได้รับการผ่านประสบการณ์ต่างๆ ผ่านทั้งร้อนและหนาวทุกข์และสุข ทุกสิ่งทุกอย่างหล่อหลอมให้เติบโตมาได้อย่างน่าตราตรึง แม้บางคนอาจเติบโตมาด้วยการเจอแต่เรื่องราวร้ายๆ แต่มันก็ยังเป็นบทเรียนที่มีค่าที่ทำให้คนแข็งแกร่ง ชีวิตของคนเรากว่าจะเติบโตมาได้นั้นล้วน ต้องประกอบด้วยคุณค่าและความหมาย นอกจากนี้ในอนาคตของชีวิต ชีวิตหนึ่งก็ยังสามารถเจอเรื่องราวได้อีกมากมาย สามารถที่จะสัมผัสเนื้อหาของโลกนี้ได้อีกมาก อีกทั้งชีวิตหนึ่งยังสามารถที่จะช่วยเหลือผู้คน สร้างสรรค์จรรโลงโลก สามารถทำในสิ่งที่ดี และสามารถทำสิ่งดีตอบแทนพระคุณผู้มีพระคุณได้อีกด้วย ชีวิตในวันข้างหน้าจะดีหรือจะร้าย แต่มีไว้ให้คนได้เลือกทำ ตั้งใจทำให้ดีได้ และมีโอกาสให้คนสู้ และพิสูจน์ตนเอง ชีวิตได้สัมผัสสายลม และทิวทัศน์แสงแดด ได้สัมผัสแสงดาว…

จงรู้ค่าของเวลาให้ถ่องแท้

จงรู้ค่าของเวลาให้ถ่องแท้ เวลาคือสิ่งล้ำค่ามหาศาลมาก และเวลายังเป็นโอกาสของมนุษย์ที่จะได้ทำในเรื่องต่างๆ ชีวิต ที่ได้เกิดมานั้นกว่าจะเกิดมาเป็นคนได้ต้องใช้องค์ประกอบมากมาย อย่าว่าแต่ในการมีชีวิตในปัจจุบัน หัวใจต้องเต้นตลอดเวลาเลือดลม ต่างๆต้องทำงานคล้องจองเป็นจังหวะ น้ำในหูต้องรักษาสมดุลย์ ระบบข้อต่อและเอ็นต่างๆต้องมีกำลังมีสารอาหารมีความแข็งแรง มีผู้คนมากมายที่ต้องการเวลาในชีวิต มีนักโทษที่อยากได้โอกาสได้เวลา มีนักโทษประหารที่อยากได้เวลาและพึ่งจะรุ้สึกว่าเสียงใบไม้สายลมและนกร้องในยามเช้าของวันก่อนที่จะประหารนั้นมีค่าแค่ไหน มีคนป่วยอีกมากมายที่อยากได้เวลา  มีคนอีกหลายเหตุหลายปัจจัยสารพัดที่อยากได้เวลา แต่วันนี้คุณจะยอมหรือที่จะปล่อยให้โรคซึมเศร้ามันผลายเวลาในชีวิตคุณ สักวันคุณอาจเสียใจเมื่อชีวิตคุณเริ่มดีขึ้นคุณจะเสียใจว่าหลายสิ่งคุณน่าจะทำไปในตอนยังหนุ่มยังสาว คุณจะรู้สึกเสียใจมากๆกับการใช้เวลาจมในความเศร้าไปหลายปี ซึ่งมันมักจะฉุดดึงผู้คนได้ถึงขนาดนั้นอีกด้วย

ยิ้มให้เก่ง

ผู้ที่ยังยิ้มได้ในวันที่เผชิญความยากลำบาก ผู้ที่ยังมีประกายแววตาแห่งจิตใจที่ต่อสู้ แม้ในวันที่เผชิญมรสุมชีวิต คนผู้นั้นย่อมมีหัวใจที่ยิ่งใหญ่ที่พร้อมฟันฟ่า สร้างสรรค์สิ่งมีค่าให้ชีวิตได้ กลับกันผู้ที่โมโหง่าย ขุ่นมัวง่าย โวยวายง่าย โทษฟ้าโทษดินโทษทุกสิ่ง ผู้ที่เอะอะก็ร้องไห้ง่าย โกรธง่าย เสียใจง่าย ท้อแท้ง่าย คนผู้นั้นย่อมเป็นผู้ที่นำพาการใช้ชีวิตที่ยุ่งยาก ยากลำบาก การฝึกฝนให้หัวใจตนเองกว้างใหญ่นั้น คือสิ่งที่ทุกคนทำได้ ขอมีใจที่จะฝึก ฝึกให้พัฒนาวันละนิดวันละน้อยไม่ย่อท้อมีแรงมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนตัวเองเสมอ ผลที่ได้ย่อมคุ้มค่า จงอย่ายอมให้สิ่งภายนอกมาเล่นตลกกับชีวิตเรา   โลกแห่งความเป็นจริงที่เฝ้าทดสอบเรา เราต้องมีความรู้สึกอย่างนักสู้ จงเตือนตัวเองเสมอว่าอย่ายอมมัน  จงบอกตัวเองเสมอว่าสิ่งใดอย่าหวัง สิ่งใดอย่าบังอาจที่จะมาพรากรอยยิ้มไปจากฉัน  สิ่งต่างๆที่คิดจะมากลั่นแกล้งคุณ เพราะรู้ว่าคุณนั้นช่างอ่อนแอเปราะบาง และมีปฏิกริยาตอบโต้ได้ง่าย จงรู้เท่าทันและอย่ายอมเป็นคนอ่อนแอพ่ายแพ้

บทเรียนที่เพิ่มความรักให้ครอบครัว

บทเรียนที่เพิ่มความรักให้ครอบครัว สำหรับคนที่ยังพอมีพ่อมีแม่ หรือมีญาติมีพี่น้อง หรือมีครอบครัวมีคนรักคอยให้กำลังใจ คุณลองระลึกถึงช่วงที่เขาเหล่านั้นเป็นห่วงเป็นใยคุณ หรือร่วมร้อนหนาวกับคุณ รู้สึกแย่ไปด้วยกับคุณ คุณลองค่อยๆตั้งสติระลึกให้ดีคุณเห็นอะไรไหม? ที่แสดงถึงพลังแห่งความอบอุ่นที่งดงามและยิ่งใหญ่ ไม่ว่าคุณจะเสียใจจาก ทรัพย์สินเงินทอง  เสียใจจากความผิดหวังต่อฐานะยศศักดิ์ ผิดหวังต่อเส้นทางที่ตั้งเป้าหมายไว้ หรืออกหักเสียใจเรื่องแฟน หรือเสียใจต่อความสูญเสียคนรักหรือสมาชิกสำคัญ หรือเครียดในภาวะหนี้สิน หรือเสียใจต่อความผิดใดๆของตนเอง แต่มันเป็นบทเรียนบทหนึ่งของชีวิต ที่จะสอนให้คุณได้เห็นการเกื้อกูลประคองกันของบรรดาคนที่ยัง ช่วยเหลือคุณ นาทีนี้คุณจะได้เห็นสิ่งที่งดงามของคนที่ห่วงใยคุณ ได้เห็นความจริงใจ ที่เขายังมีให้คุณ คุณจะได้เรียนรู้ว่าสิ่งที่ยังเหลืออยู่นั้น แท้จริงมันมีค่ามหาศาล บางกรณีมีค่ายิ่งกว่าสิ่งที่คุณเสียไปด้วยซ้ำ ภายใต้ความเสียใจอย่างน้อยยังมีเรื่องดีๆปรากฏและเกิดขึ้น  สิ่งที่ผ่านไปแล้วไม่หวลคืนแต่สิ่งที่ยังเหลือและมีค่านั้น มันถึงเวลาแล้วที่คุณจะเรียนรู้ที่จะมองเห็นให้ลึกซึ้งถึงสุขล้นมากยิ่งขึ้น

ระวังความกล่าวโทษฝังคับแค้นอย่างผิดๆ

ระวังความกล่าวโทษฝังคับแค้นอย่างผิดๆ   กระบวนการแบบหนึ่งที่ผู้คนมากมายมัก จะใช้เป็นการระบายความทุกข์ใจนั้นก็คือ “การหาใคร่ครวญหาสาเหตุเพื่อจะกล่าวโทษ” นับเป็นเรื่องแปลกพิกลพอสมควรสำหรับกลไกล ความคิดของมนุษย์หลายๆคน ระบบความคิดที่มีความเชื่อว่า  การหาสิ่งที่ตนเองสามารถกล่าวโทษได้  มาโกรธแค้นหรือด่าหรืออาฆาต จะทำให้สามารถระบายความทุกข์ใจได้ ซึ่งแท้ที่จริงแล้ว ไม่เลย  การกระทำแบบนั้นไม่ได้ส่งผลดีใดๆต่อจิตใจทั้งสิ้น อีกทั้งยังเสริมความเครียด จากความแค้น ก่อเกิดความทุกข์ซ้ำเติมเข้าไปอีก การกล่าวโทษสิ่งต่างๆก็ตามหรือกล่าวโทษผู้คน ก็ตาม ว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้ตนเองพบทุกข์ นั้นเสี่ยงมากๆกับเรื่องราวที่ไม่เด่นชัด ไม่ชัดเจน มีองค์ประกอบหลายด้าน มีแง่มุมหลายแง่มุม มีตัวแปรหลายตัวแปร ในขณะที่ใจได้รับการกระตุ้นอยากจะด่วนสรุป โทษสิ่งนั้นโทษสิ่งนี้ ระบบอารมณ์เช่นนี้ หากเกิดขึ้นกับผู้มีปัญญา และมีสติยั้งคิดแยกแยะ ก็อาจยังพอที่จะแก้ไขได้เมื่ออารมณ์ที่บดบังเริ่มจางลง แต่หากว่าระบบความคิดแบบนี้เกิดขึ้นกับผู้ที่ มีลักษณะนิสัย อคติสูง ทิฐิมาก…

จะสุขจะทุกข์นั้นขึ้นกับความมีใจอยู่ร่วม

จะสุขจะทุกข์นั้นขึ้นกับความมีใจอยู่ร่วม โลกเรานั้นสรรพสิ่งล้วนมีความแตกต่าง  มีนก  มีปลา มีต้นไม้  มีมนุษย์ และมีอีกสารพัดมากมาย มนุษย์คงไม่เศร้าเพราะไม่มีปีกบินได้อย่างนก นกคงไม่เศร้า เก็บกดเป็นปมด้อยเพราะไม่สามารถอยู่ในน้ำได้อย่างปลา ปลาคงไม่เศร้าเพราะไม่มีแขนขาแบบมนุษย์ จะเห็นว่าแต่ละสิ่งล้วนมีวิถีแห่งตน และมีจิตที่ร่วมใจกับชีวิตของตนเอง แต่ทว่าบางทีแล้วสังคมของมนุษย์ นั้นมีการเสี้ยมสอนความเศร้า มีการเปรียบเทียบกับสิ่งที่แตกต่าง กว่าตน เช่น การสังเวชเวทนา คนตาบอดหรือหูหนวก หรือแขนขาพิการ แต่กำเหนิด  แต่ก็ยังสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ มิได้ตกอยู่ในสภาพใช้ชีวิตไม่ได้ และมนุษย์ที่มีจิตเมตตา ล้วนช่วยเหลือคนพิการเพื่อให้ได้รับความสะดวกในชีวิตมากขึ้น   แต่นั่นมิใช่หมายความว่าจะไปตีตราว่าสิ่งที่ผู้พิการเป็นนั้นมันคือสภาพที่น่าสมเพชแต่อย่างใดไม่ บางครั้งเราใช้ความรู้สึกส่วนตัวของเราชี้วัดแทนเขา เราใช้ความเคยชินร่วมใจกับชีวิตของเราไปคิดแทนชีวิตของเขา หากวันใดวันหนึ่ง มีมนุษย์ที่สามารถ เหาะเหินเดินอากาศ มีสายตายาวไกลมองข้ามภูเขาได้ยินเสียงไกลๆได้  มีแขนขาที่ยืดหดได้ มนุษย์ธรรมดาจะถือเป็นสิ่งน่าสมเพชหรือไม่?…

Page 4 of 9