อู๋เหวย คือชื่อของหลักปฏิบัติจิต ในแนวทางของลัทธิเต๋า ซึ่งเป็นลักษณะปฏิบัติ ที่ อยู่ในความเรียบง่ายและเข้าร่วมกับธรรมชาติมากที่สุดเท่าที่ทำได้ โดยอาศัยการหลีกเลี่ยงการครุ่นคิดกำหนดแบบแผนเป้าหมายอันใดที่เคร่งเครียด ไตร่ตรองยุ่งยากซับซ้อน เกินไป อู๋เหวย มิใช่การนิ่งเฉย ปล่อยปละชีวิต ไม่ทำอะไรเลย แต่เป็นความที่จิตมีสภาวะที่ อ่อนน้อม ไม่แทรกแซงบังคับ และไม่ใช่การกระทำที่ยืนกรานอะไรบางอย่าง ในเชิงที่ขัดแย้งต่อธรรมชาติมากเกินไป เป็นหลักที่สนับสนุนให้ มนุษย์ปฏิบัติต่อสรรพสิ่ง มีความอ่อนน้อมกลมกลืนและให้เกรียติต่อความเป็นธรรมชาติ โดยเชื่อว่าการใดก็ตาม ที่อยู่ร่วมกับธรรมชาติได้มากที่สุด การนั้นส่งผลต่อพลังที่มีค่าและนำมาซึ่งความสงบสุข หากเราปรับหลักแนวทางนี้มาใช้กับ วิถีทางโลกของสามัญชนทั่วไป เราจะพบว่า เรื่องหลายเรื่องนั้น มนุษย์ทุกข์เข็ญเหนื่อยยาก บ้างจมอยู่ในความเศร้า เป็นเพราะเราปลูกฝังจิตให้ขัดแย้งต่อธรรมชาติ มีหลากหลายเรื่องนานับประการที่ มนุษย์ต้องการฝืนธรรมชาติ และเมื่อเกิดความไม่เป็นดั่งใจก็กลายเป็นความทุกข์ การยอมรับที่จะให้เวลาแก้ไขปัญหา…
ข้อคิดปรัชญาศาสนา
ข้อคิดปรัชญาศาสนา Feedบำบัดด้วยวิถีแห่งเซ็น
byบำบัดด้วยวิถีแห่งเซ็น เซ็น เป็นชื่อของนิกายหนึ่งทางพุทธศาสนา หลักวิถีของเซ็น นั้นมีแนวทาง หลายแง่มุมที่ประชาชนทั่วไปสามารถนำมาปรับใช้กับชีวิตปัจจุบันได้แม้ว่า ท่านจะไม่ได้นับถือศาสนานี้นิกายนี้ก็ตาม อันที่จริงแล้วในหลายๆศาสนานั้นก็มีหลายๆคำสอนที่สอดคล้องไปในทางเดียวกัน อยู่ที่ผู้คนจะเลือกปรับใช้ สำหรับวิถีแห่งเซ็นนั้น ด้านที่เด่นชัดมากๆ นั่นก็คือการใช้หลักเรียนรู้สัจธรรมความเป็นจริง จนตระหนักได้ถึง ความไม่เที่ยง ความไม่จีรังยั่งยืน ความไม่มีตัวตนของทุกสรรพสิ่ง ความอุปโลกษณ์ ความยึดติดยึดมั่นถือมั่น ของสังคมมนุษย์ และรู้แจ้งถึงการรับสภาพของสัญชาติญาณที่ติดตัวมาของชีวิต ยอมรับธรรมชาติในขั้นพื้นฐาน ที่มนุษย์ยากที่จะสละได้ เช่นความหิว ความกระหาย การมองเห็นการสัมผัส ความมีตัวตนของธรรมชาติ ยอมรับที่จะอยู่ร่วมกับสิ่งเหล่านี้ แต่ก็ไม่เพิ่มความปรุงแต่งไปมากกว่านี้ เรียนรู้สัจธรรมจากนั้นก็ปล่อยวาง อยู่กับวิถีที่เรียบง่าย ไม่ทำสิ่งใดให้ยุ่งยาก มากความกว่าที่เป็นอยู่ เมื่อล้วนมองออกว่าสรรพสิ่งล้วนมิใช่มีตัวตน และเรื่องราวยุ่งยากมากความต่างๆนั้นเป็นสิ่งที่ ไปสร้างนิสัย…
แง่คิดของความอดทนในอิสลาม
byแง่คิดของความอดทนในอิสลาม มีบทความบทหนึ่งในเนื้อหาที่เกี่ยวกับ ศาสนาอิสลามที่เล่าเกี่ยวกับเหตุการณ์ ครั้งหนึ่งโดยกล่าวถึง รายงานจากท่านอนัส บิน มาลิก ซึ่งมีเนื้อหาระบุว่า : ท่านนบี ได้เดินผ่านสตรีผู้หนึ่งที่กำลังร้องไห้อยู่ที่หลุมฝังศพ ท่านนบีจึงได้กล่าวกับนางว่า : จงยำเกรงอัลเลาะห์ และจงอดทนเถิด นางจึงได้กล่าวตอบว่า : เจ้าจงไปให้ไกลๆฉันเลย เจ้ามิได้ประสบเคราะห์กรรมเช่นเดียวกับที่ฉันได้ประสบนี่(สตรีผู้นี้ไม่รู้จักท่านนบีมาก่อน) ดังนั้นจึงมีคนบอกกับนางว่า : แท้จริงเขาผู้นั้นคือ ท่านนบี นางจึงได้ไปที่ประตูบ้านของท่านนบี และพบว่าประตูบ้านของท่านนบีไม่มีใครเฝ้าอยู่ นางจึงได้กล่าวกับท่านรอซูลในเชิงขอโทษว่า : ฉันไม่รู้จักท่านมาก่อน ท่านนบี จึงกล่าวว่า :…
หนทางแห่งความรักและเมตตาธรรม ในศาสนาคริสต์
byหนทางแห่งความรักและเมตตาธรรม ในศาสนาคริสต์ หากเราลองพิจารณาวิถีในศาสนาคริสต์ดู ตามคำกล่าวดังนี้ซึ่งพระศาสนจักรคาทอลิก ได้กล่าวถึง เมตตาธรรมเอาไว้ว่า เมตตาธรรม ทำให้เราสามารถเห็นพระพักตร์ของพระเยซูคริสตเจ้า ในคนยากจนและขัดสน พระองค์ทรงสอนว่า เมื่อเราหิว กระหาย โดดเดี่ยว ท่านได้มาช่วยเหลือเรา (เทียบ มธ 25.36) อาศัยความเชื่อในพระเยซูคริสตเจ้า ผู้ทรง “มอบชีวิตของพระองค์เพื่อเรา” (1 ยน 3:16) ประวัติศาสตร์ของพระศาสนจักรมีหลักฐานชัดเจนว่าได้มีความริเริ่มเกี่ยวกับงานเมตตามากมาย ในสมัยปัจจุบันบรรดาคริสตชนทั่วโลกเอาใจใส่คนยากจนและขัดสน ด้วยวิธีทางต่างๆ ตั้งแต่เป็นประจักษ์พยานชีวิตธรรมดาๆ จนถึงกิจการขององค์กรคาทอลิกมากมาย ความริเริ่มต่างๆ ของเมตตาจิตแบบคริสตชน ต้องแสดงถึงการอุทิศตนของพระศาสนจักร และความซื่อสัตย์ต่อคำสอนของพระเยซูเจ้า (ปอล ที่ 6…
มองให้เห็นบ่อเหตุของความทุกข์
byมองให้เห็นบ่อเหตุของความทุกข์ การมองให้เห็นถึงบ่อเหตุแห่งทุกข์นั้นถือเป็น การจัดการที่มีคุณประโยชน์สูงมากในการจัดการกลไกลทางจิตใจ โดยปรกติแล้วคนที่ต้องตกเป็นโรคเครียดซึมเศร้าเรื้อรังรุนแรง มักเกิดจากปัญหาที่ซับซ้อน และหลากหลายรุมสุมทรวง การพิจารณาบ่อเหตุของทุกข์ที่เกิดขึ้นในจิตใจ จะสามารถ คัดแยกวิเคราะและจัดการกับกลไกลได้ถูกจุด และมองเห็นแผล มองเห็นตัวปัญหาที่ซ่อนลึกอยู่ในปมของจิตใจได้ แต่การที่จะพิจารณาให้เห็นถึงบ่อเหตุในจิตใจนั้น ผู้ฝึกจำเป็นที่จะต้องฝึกฝนให้จิตใจเกิดสมาธิขึ้นให้ได้ แม้จะยังว้าวุ่นใจ แต่ก็ขอให้ฝึกพอเพียงที่จะเกิดสมาธิที่สงบได้สักช่วงหนึ่ง เพื่อสร้างสภาวะที่เหมาะสมที่จะมองเห็นบ่อเหตุของความทุกข์ได้ และเมื่อใจเริ่มมีสภาวะเป็นสมาธิแล้ว จึงค่อยๆก่อเกิดสติ ลำเลียงจิต ไตร่ตรอง หาเหตุว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น อย่างเช่น บางคนที่กำลังทุกข์เพราะถูกคนรักหักหลังทรยศ ก็ให้เราค้นหาคำตอบก่อนว่า ทำไมเราจึงเจ็บเพราะสิ่งนี้ เราเจ็บตรงไหน เราเจ็บที่ไม่มีเขาอยู่ใกล้ใช่หรือไม่ แล้วทำไมจึงเป็นเช่นนั้น นั่นเพราะเราหลงใหลในสุขในยามมีเขาอยู่ใกล้ใช่หรือไม่ และทำไมเราจึงมีสุขในยามที่เขาอยู่ใกล้ นั่นเพราะเรายึดติดสิ่งใดในตัวเขา เรามีความรังเกียจความโดดเดี่ยวใช่หรือไม่ เราค่อยๆคิดถึงเหตุที่ทำให้เราทุกข์ไปเรื่อยๆ โดยอาศัยการคิดแบบนี้เชื่อมโยงให้ลึกลงไปเรื่อยๆ ซึ่งสามารถนำไปคิดได้ทั้งในคนที่พบเจอความทุกข์จากเรื่องอื่นๆ…