ความเหงาคือ ส่วนผสมหนึ่งที่เข้าร่วมทำให้ผู้ที่อยู่ในภาวะอกหักต้องรู้สึกทุกข์ ความเหงานั้นเป็นธรรมดา ที่คนโดยทั่วไปจะรู้จักสิ่งนี้รู้สึกได้ถึงสิ่งนี้กันทุกคน แต่ต่างกันตรงที่ว่า ความมากน้อยนั้นต่างกัน ความพร่ำเพรื่อนั้นต่างกัน และความแข็งแรง และทัศนคตินั้นต่างกัน คนที่มักกำราบความเหงาด้วยการพึ่งพิงปัจจัยภายนอก จนเคยตัวติดเป็นนิสัย คนผู้นั้นจะไม่ได้รับการพัฒนาพลังของจิตใจตนเองเลย อีกทั้งยังอ่อนแอลงทุกวันด้วยความเคยตัวนั้น ลองไตร่ตรองใคร่ครวญนึกถึงตัวเองในอดีตที่ผ่านมาดูให้ดีว่า ตัวเรานั้นมักยึดติดกับอะไรบ้าง บางคนใช้หนังสือ ใช้ทีวีช่วยคลายเหงา บางคนใช้เพลงช่วยคลายเหงา แต่กลับกลายเป็นว่าเมื่อใช้สิ่งเหล่านี้จนเคยชิน กลับกลายเป็นถูกสิ่งเหล่านั้นผูกขาดความเหงาเอาไว้เวลาใดที่ไม่ได้เสพ จะรู้สึกไม่สบายใจ นั่นคือสิ่งที่เรียกว่ามากเกินพอดี มนุษย์ที่ไม่รู้เท่าทัน การควบคุมตนเองยิ่งพอได้สัมผัสความรัก รู้สึกว่ารสของการครองคู่ รสของการมีแฟนมันช่างหอมหวานมันช่างอบอุ่นหัวใจเหลือเกิน เสพติดรสรักฝากทุกอย่างของชีวิตไว้กับความรัก และติดนิสัยเอาคนรักเป็นที่ตั้ง หากไม่ได้พบไม่ได้เจอไม่ได้คุยจะคิดถึงอย่างหนัก บางคนติดโทรศัพท์ เวลาที่ว่างๆถ้าไม่มีใครโทรมาหาจะรู้สึกอ้างว้างกว่าคนปรกติทั่วไป ต้องคอยชำเลืองมือถือของตัวเองเสมอว่าเมื่อไหร่จะมีคนโทรมา สิ่งพวกนี้ล่ะคือพฤติกรรมของความเหงาที่คนเรามักบ่มเพาะพัฒนาอาการของมันขึ้นมาด้วยพฤติกรรมต่างๆ และท้ายที่สุดในวันเวลาที่คุณต้องเผชิญกับความพรากจาก ซึ่งเป็นความจริงในโลกนี้ที่ไม่มีใครหนีพ้น…
อย่าจมในความอ่อนแอจนกลายเป็นคนน่าเบื่อหน่าย ในยามที่คนเรามีสภาพจิตใจ ที่หมองเศร้ากลัดกลุ้ม หมกมุ่น มาอย่างยาวนาน แน่นอนว่าระบบจิตใจ อารมณ์และประสาทสมองย่อม บอบช้ำ สูญเสียความเป็นตัวเอง และระบบความคิดอ่านทำงานไม่ปรกติ มีความสับสนไม่เป็นตัวของตัวเอง มีนิสัยที่ใครๆไม่อยากเข้าใกล้ มีอาการแตกต่างกันไป บ้าง อัดอั้นระบาย วกวน ย้ำคิดย้ำพูด บ้างเหม่อลอย เก็บกด ระบบความรู้สึกแปรปรวน ไม่ปรกติ และสติอารมณ์เริ่มไม่สมประกอบ โดยเฉพาะยิ่งหากมีปัจจัยอื่นมาซ้ำเติมอย่างเช่น ทานน้อย อดนอน พึ่งสิ่งมอมเมา คนในสภาพแบบนี้ ถือว่าเป็นคนที่มีสภาพไม่ปรกติ ยากที่จะสามารถทำอะไรให้ดีได้ หากคุณคิดที่จะ ออกหารักใหม่ แน่นอนว่าสภาพแบบนี้ไม่มีทางที่ใครจะอยากอยู่ใกล้คุณ เว้นแต่คนที่หวังหลอกเอาเปรียบ บางสิ่งบางอย่างจากคุณหรือเรือนร่างหน้าตา…
หยุดซักซ้อมใคร่ครวญหาความถูกผิด อาการซักซ้อมความคิด ไตร่ตรองหา ความถูกผิด คือลักษณะที่เป็นกันมากสำหรับผู้ ที่อกหักร้างรา เลิกกัน หรือถูกทิ้ง อันเนื่องมาจากสิ่งที่ไม่ลงรอยกัน ผู้ที่ติดอยู่ในอาการนี้มักจะชอบย้ำคิด ทบทวนไตร่ตรอง หยิบจับรายละเอียดต่างๆในเรื่องที่ผ่านมา เฝ้าใคร่ครวญ ว่าอะไรเป็นเพราะอะไร เรื่องที่เกิดขึ้นต่างๆใครผิด? บางราย ชอบที่จะย้อนเวลา ไปตามเก็บสิ่งที่เป็นเรื่องที่ตนเป็นฝ่ายถูกมาสะสมเอาไว้ และรวบรวมความผิดของฝ่ายตรงข้าม บางราย ชอบที่จะโทษตัวเอง เอาเรื่องราวต่างๆมาปะติดปะต่อขบคิด แล้วเก็บรายละเอียดต่างๆที่คิดว่าตนเองเป็นฝ่ายผิดแล้วเอามาโทษตัวเอง เสียใจคร่ำครวญ บางรายเฝ้าย้อนคิดเรื่องเดิมๆทวนไปทวนมาอยู่ตลอดเวลาเพื่ออยากจะรู้สาเหตุของสิ่งต่างๆ และมักจะโทษไปทุกอย่างที่เกี่ยวข้องไม่ว่าตัวเอง หรือฝ่ายตรงข้าม หรือแม้แต่ผู้คนอื่นๆ สภาวะต่างๆที่เกิดขึ้นนี้ ไม่ใช่การแก้ไขจิตใจให้ดีขึ้นได้แต่อย่างใด มีแต่จะเลวร้ายลง และเป็นคนจำจดปักใจเชื่ออยู่กับความคิด สะสมความโกรธความแค้นความเกลียด สะสมความหดหู่สะสมความเศร้า สะสมความหมดอาลัยตายอยาก…