รู้เท่าทัน ทำความเข้าใจกับภาวะอยากฆ่าตัวตาย

Tagged:

รู้เท่าทัน ทำความเข้าใจกับภาวะอยากฆ่าตัวตาย

 

การฆ่าตัวตาย นั้นมีแรงผลักดันมาจากหลายประเด็น อย่างเช่น

 บุคคลผู้นั้นมีลักษณะนิสัยที่เป็นรากฐานเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย อาจเป็นคนที่แต่ไหนแต่ไรมา เก็บกดง่าย อารมณ์รุนแรง ควบคุมอารมณ์ไม่ค่อยได้ อ่อนไหวง่าย หรือบางคน ไม่ค่อยมีภูมิในการเผชิญอะไร เป็นคนที่อ่อนแอ ชอบร้องไห้คร่ำครวญได้แม้กระทั่งเรื่องเล็กน้อย

บางคน เป็นคนคิดเยอะ เจอเรื่องอะไรหนักๆแล้วมักแก้ไขความคิดและอารมณ์ไม่ได้ จะสับสนและขยายความคิดฟุ้งซ่าน คิดลึก  เหล่านี้เป็นต้น ที่เป็นพื้นฐานลักษณะนิสัยที่ เอื้ออำนวยต่อ การฆ่าตัวตาย ในยามต้องเผชิญกับปัญหาหนักๆ  ไม่ว่าจะฆ่าตัวตายเพราะหนีปัญหา   หนีความทรมานทางจิตใจ  หรือท้อถอยท้อแท้รู้สึกไม่อยากใช้ชีวิต หรือบางคนก็ฆ่าตัวตายเพื่อสนองความเจ็บแค้น ต้องการประชด หรือต้องการให้คนข้างหลังได้รับความเสียใจ

ซึ่งใครที่มีนิสัยพื้นฐานเหล่านี้อยู่ แม้ในวันที่ยังไม่เจอกับปัญหาอะไรขอให้คุณรับรู้ไว้เถิดว่า คุณควรปรับเปลี่ยนนิสัยตั้งแต่วันนี้ เพราะการที่คุณยังปล่อยให้ตัวเองเป็นแบบนี้

 

หรือแม้กระทั่งถึงขนาดบางคนกลับภูมิใจที่ตัวเองเป็นแบบนี้ ชอบทำตัวเอาแต่ใจให้คนเอาใจ ชอบทำตัวอ่อนแอให้คนประคบประหงม ชอบตั้งเงื่อนไขคุณสมบัติความเอาแต่ใจของตนเองเที่ยวข่มขู่คน  นั่นนับว่าเสี่ยงมากๆ

จงรับรู้เอาไว้เถิดว่าคนเราทุกคนนั้นล้วน ต้องมีช่วงจังหวะชีวิตที่เผชิญกับเรื่องหนักๆทั้งนั้น แต่หากคุณยังทำตัวสุ่มเสี่ยงแบบนี้อยู่ นั่นคือคุณได้วางระเบิดทำลายตัวเองไว้ล่วงหน้าแล้ว

คิดมาก

การฆ่าตัวตายที่มาจากสภาพของจิตใจที่ไม่อาจทนทานต่อความเจ็บปวดใจ ,ความคิดประชด,ความสำนึกผิดรุนแรง,และอารมณ์ชั่ววูบ นั่นเป็นกลุ่มปัญหาที่มักเกิดขึ้นในสังคม

แต่เดี๋ยวก่อน!

สาเหตุในการฆ่าตัวตาย มันยังมิใช่มีแค่เพียงปัจจัยในกลุ่มข้อแรกเท่านั้น แต่ยังมีสาเหตุอื่นๆด้วย

มันยังมีปัจจัยที่คาดไม่ถึงที่ บุคคลภายนอกมักมองไม่เข้าใจ แผลในใจโรคในใจมันคือสิ่งที่คนภายนอกมองไม่เห็น ด้วยสายตาคนภายนอก ซึ่งบางครั้งคนภายนอกอาจอาจรู้สึกหมั่นไส้ รำคาญ จนรู้ไม่เท่าทันก็เป็นได้

คนที่ฆ่าตัวตายนั้นบางครั้งมีสาเหตุมาจากความซวย ที่ไม่ได้ตั้งใจก็มี!

บางทีแล้ว เขาคือผู้ที่ไม่อยากฆ่าตัวตายเพราะเรื่องที่เขาเศร้า    แต่ทว่าโรคซึมเศร้ามันทำลายสภาพร่างกายของเขาให้ทรมานกับโรคร้ายนั้นจนเขายอมแพ้ ต่างหาก

คนบางคนนั้นมีสติมีนิสัยที่เหมาะสม มีภาวะที่เข้มแข็งมีปัญญาแยกแยะได้

แต่บางครั้งชีวิตของเขาซวยด้วยการถูกภาวะต่างๆรุมเร้าเข้าอย่างไม่ได้ตั้งใจ เช่น การเผชิญกับปัญหามากกว่าหนึ่งเรื่อง เผชิญปัญหาหลายๆเรื่อง แถมยังติดต่อกันแทบไม่ได้พัก และอาจยิ่งต้องวิ่งเต้นปัญหา จนนอนน้อย กินน้อย ผนวกกับภาวะทางเคมีในร่างกายเกิดความสับสน

สมองที่เคยรู้เคยมีสติเคยแยกแยะได้กลับกลายเป็นทำงานเสื่อมลง นิสัยต่างๆผิดเพี้ยนไปจากภาวะร่างกายทำงานเริ่มไม่สมบรูณ์   ปัญญาต่างๆก็สับสนเชื่อมโยงผิดๆถูกๆ ยิ่งเป็นในสภาพนี้นานวันเข้า ยิ่งขยายอาการให้แย่ลงเรื่อยๆ

บุคคลรอบข้างคือสิ่งสำคัญที่ควรทราบว่า มนุษย์เรานั้นบางครั้งมีขีดจำกัดอยุ่บ้าง อย่าว่าแต่ไม่เท่ากันในแต่ละคนด้วยซ้ำ บางครั้งคนรอบข้างต้องยอมรับความอ่อนแอของผู้ป่วย ทางจิตใจ และปฏิบัติกับเขาอย่างประคอง เหมือนที่ประคองผู้ป่วยทางกาย และเคร่งครัดในการถนอมรักษาน้ำใจเขา เคร่งครัดในการอดทนยอมรับภาวะสับสนหรือดื้อรั้นของเขา

ส่วนสาเหตุอีกประการที่น่ากลัวเป็นอย่างมากที่ทำให้คน ฆ่าตัวตายอย่างไม่ได้เจตนานั่นก็คือ

ภาวะซึมเศร้าเรื้อรังคิดมากหมกมุ่นกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งจน ลืมปฏิสัมพัณธ์กับสิ่งรอบตัว

ซึ่ง โดยปรกติมนุษย์เราจะมีระบบปฏิสัมพัณธ์กับสิ่งรอบตัว สัมผัสร้อนเย็น สัมผัสรสชาติอาหาร สัมผัสรสชาติการแสดงต่างๆได้

สัมผัสรสชาติที่เกิดขึ้นในยามพบปะผู้คนและสิ่งต่างๆได้ มันเป็นระบบธรรมชาติในร่างกายที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและใช้เวลาในการพัฒนาสั่งสม ความสามารถทางสัญชาติญาณนี้ สะสมมาเรื่อยๆจากเด็กจนโต

แต่สำหรับผู้ป่วยโรคซึมเศร้ารุนแรงเรื้อรัง การงดปฏิสัมพัณธ์กับสิ่งต่างๆรอบตัว แม้พบเจออะไร แต่ใจก็กลับจดจ่ออยู่แต่กับเรื่องในความคิด  และอาการที่เป็นยิ่งนานวันเข้า   ระบบร่างกายก็จะเสื่อมลง เปรียบเหมือนผู้ป่วยที่ต้องนอนบนเตียงนอนพยาบาลนานๆ แขนขาจะลีบลงเพราะไม่ได้ใช้งาน ซึ่งระบบสมองความคิดระบบประสาทสัมผัส ต่อสิ่งรอบตัวเองก็เช่นกัน ภาวะร่างกายเสื่อมนี้ มันคือสิ่งที่เล่นงานผู้คนได้เร็วมาก ใช้เวลาไม่กี่เดือนก็ทำให้ระบบเสื่อมได้

ทุกอย่างในร่างกายของคนเราหากไม่ได้ใช้ไม่ได้คลุกคลีก็มักจะเสื่อมได้ทั้งนั้น

และทีนี้เมื่อระบบปฏิสัมพัณธ์รอบตัวเสื่อมลง  แม้ว่าคนๆนั้นจะเลิกคิดเลิกเศร้ากับเรื่องที่คิดแล้ว

แต่เชื่อหรือไม่ว่า ความเป็นจริงก็คือ ต่อให้เลิกเศร้าเลิกคิดแล้วก็ตาม ต่อให้โชคดีได้สติได้แสงสว่าง ที่นึกอยากจะรักษาตัวเองให้หายจากโรคซึมเศร้าแล้วก็ตาม แต่หากระบบในร่างกายมันเสื่อมกับปฏิสัมพัณธ์รอบตัวแล้ว มันคือชีวิตที่ทุกข์เข็ญมากๆ

บุคคลผู้นั้นจะตื่นขึ้นมา อย่างไม่มีรสชาติอะไรเลยสัมผัสความรู้สึกกับเรื่องรอบตัวไม่ได้  รู้เพียงความร้อนความหนาว ความเจ็บทางร่างกาย แต่ชีวิตไร้ซึ่งชีวิตชีวา สัมผัสรสชาติของอาหารไม่ได้ สัมผัสรูปรสกลิ่นเสียง ความบันเทิง ความสุขความสบายใจไม่ได้ และใจก็ยังมิใช่ผู้ที่จะละทางโลก แต่นั่นคือใจของคนที่ก้ำกึ่งหาทางที่ตนเองต้องการไม่เจอ และมีภาวะ เหมือนคนที่ต้องทุกข์ทรมานจากอาการขาดสมรรถภาพ

นั่นคือชีวิตที่เหมือนตายทั้งเป็น เป็นชีวิตที่สัมผัสรสชาติของชีวิตไม่ได้ และมีแต่ร่างกายและจิตใจที่เหนื่อยล้าอ่อนล้า

และแน่นอนว่าท้ายที่สุดมันก็มักจะผลักดันให้คนฆ่าตัวตาย และ คนที่ฆ่าตัวตายในกรณีนี้ กลับไม่ได้ฆ่าเพราะเรื่องที่ตนเองซึมเศร้า แต่ฆ่าเพราะโรคร้ายที่เกิดขึ้นหลังจากการซึมเศร้า

 ซึ่งผู้ที่ฆ่าตัวตายด้วยสาเหตุนี้ นั้นเป็นสิ่งที่คาดไม่ถึงมากๆสำหรับบรรดาญาติพี่น้อง  ซึ่งมันเป็นกลไกลที่คนทั่วไปมักไม่เข้าใจ

โรคซึมเศร้า

ขอให้ผู้อ่านทุกท่านที่กำลังมีอาการของโรคซึมเศร้าจงตระหนักและระวัง ถึงภาวะอันตรายดังกล่าวนี้ อย่าปล่อยให้ตัวเองตกอยู่ในวังวนของความเศร้ามากเกินไปเรื้อรัง เพราะเมื่อคุณสูญเสียปฏิกริยาตอบรับกับสิ่งแวดล้อมเมื่อไหร่ เมื่อนั้นจะนำมาซึ่งทุกข์ทรมานและปัญหาที่เพิ่มขึ้น่

 

แต่หากว่า คุณผู้อ่านคือคนหนึ่งที่กำลังถลำเข้าสู่ภาวะ ต่อมสัมผัสสิ่งแวดล้อม บกพร่องไปเรียบร้อยแล้ว  และกำลังผ่านวันคือที่รู้สึกโหดร้ายทรมานอยู่

ขอให้คุณรวบรวมเรี่ยวแรงที่แม้จะเหลือน้อยนิดนั้นไว้ ฮึดอดทนให้ได้อีกครั้ง  ซึ่งครั้งนี้คือการรวบรวมเรี่ยวแรง เพื่ออยู่กับคืนวันแห่งการรักษา ซึ่งมิใช่เพื่ออยู่กับคืนวันที่ไม่รู้หนทาง

และขอให้คุณรวบรวมจิตใจ แน่วแน่ที่จะรักษาอาการของตนเองให้ได้ จงทวีความตั้งใจนี้ให้เปี่ยมล้น

และจากนี้ไปในแต่ละวัน คุณควรค่อยๆบำบัดตัวเองด้วยการ ฝึกจับสัมผัสกับสิ่งรอบตัวอย่างจริงจัง อย่าท้ออย่าเสียขวัญ  และยอมที่จะให้เวลากับเรื่องนี้ แม้ว่ามันจะต้องใช้เวลาสักกี่วันเดือนปีก็ตาม

คุณลองพยายามนึกถึง โลกส่วนตัวหรือกิจกรรมอะไรที่ชอบทำ เมื่อครั้งยังเป็นปรกติ ลองไปสัมผัสสิ่งเหล่านั้น ค่อยๆฝึกฝนจับความรู้สึกให้ได้ พยายามคว้าสัมผัสแห่งชีวิตชีวาให้ได้ เมื่อคุณคว้าถูกจุด จากนั้นทุกอย่างที่ดีๆมันจะเริ่มไหลเข้ามาสู่คุณได้เองในทุกวัน

และคุณควรที่จะไปพบแพทย์ ซึ่งอาจมีการใช้ยาร่วมในกระบวนการบำบัดด้วย ซึ่งแพทย์อาจจัดยาที่ช่วยฟื้นฟู สภาพระบบประสาทของคุณให้กลับมามีประสิทธิภาพและช่วยให้อะไรๆง่ายขึ้น

 

ซึ่งการที่จะผ่านช่วงนี้ไปได้มันสำคัญมากที่ผู้ป่วย ควรได้รับการชี้แนะการให้กำลังใจตนเอง ต้องมีจิตใจที่กัดฟันสู้โรคภัยของตัวเองให้ได้ อย่ายอมแพ้ และจะดียิ่งขึ้นหากมีผู้คนรอบข้างคอยเข้าใจ ภาวะที่เกิดขึ้นกับเขาและให้กำลังใจเขา หรือหากผู้ป่วยรายใดไม่มีคนรอบข้างดูแลก็ขอให้นึกถึงสิ่งสำคัญต่างๆที่คุณจะต้องอยู่ให้ได้ โลกนี้ยังมีแง่มุมของชีวิตอีกมากที่สามารถบำบัดให้คุณพบสุขได้ คุณจะยังสามารถทำในสิ่งที่มีค่าต่อชีวิตได้อีกมากมาย

อย่างไรก็ตามภาวะเหล่านี้มันเปรียบเสมือนมิติหนึ่ง ที่คนทั่วไปไม่เจอไม่เป็นก็ไม่อาจรับรู้ได้ถึงสภาวะแบบนี้ว่ามันมีอยู่จริง

การที่จะตระหนักและระวังถึงอาการในขั้นนี้ ในทุกวันนี้ยังมีผู้ที่มีความเข้าใจในเรื่องนี้น้อยมาก แต่ละคนมักจะปล่อยให้ตนเองซึมเศร้าเรื้อรัง โดยพวกเขาไม่ทันคาดคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นได้บ้างกับระบบของร่างกายตัวเอง และเมื่อคุณได้รู้แล้ว จากนี้ไปขอให้ระมัดระวัง ไม่ก่อสาเหตุสะสมต่างๆให้กับตนเองในทางลบ ควรเร่งหาทางรักษาเยียวยาให้กำลังใจตนเองตั้งแต่วันนี้ แม้ว่ามันจะยากเย็นและค่อยเป็นค่อยไป แม้ว่าคุณจะยังต้องเผชิญกับคืนวันที่ทรมาน อีกหลายวัน แต่จงผลักดันการ รักษาจิตใจอยู่เสมอ มันมาถึงแน่นอนวันที่จิตใจคุณจะพบแสงสว่างแห่งความสุข และเข้าใจคุณค่าความหมายของชีวิต

เป็นสุข

 

เนื้อหาข้อเขียนในบทความเขียนโดย เจ็ดผู้ว่าง่าย setmem.com

setmem.com ที่แห่งการแบ่งปัน  ปรึกษา รักษา ความเครียด กลุ่ม รักษา โรคซึมเศร้า ที่แห่งการประคอง เข้าใจ และร่วมกันก้าวผ่านฝันร้ายๆ สู่วันที่ฟ้าสดใสและเข้าใจชีวิต

Leave a Comment

Your email address will never be published or shared and required fields are marked with an asterisk (*).