ความฝืนและความล้ายิ่งเติมความเจ็บปวด
ภาวะอกหักซึมเศร้ารุนแรงอันเนื่องมาจากเนื้อหาที่เจ็บปวด บางครั้ง คืนวันที่ผ่านไปยิ่งรู้สึกแย่ทรมาน
ผู้คนมากมายมักเข้าใจไปว่า สาเหตุของความทรมานคือเพราะ มาจากเนื้อหาเรื่องราวที่ตนเองพานพบ
แต่แท้จริงแล้วยังมีปัจจัยอีกบางประการที่ซ้ำเติมให้ความรู้สึกของคุณยิ่งหดหู่ โดยที่คุณอาจไม่ทันรู้ตัวเลยว่ามีอะไรที่แทรกซึมเข้ามาเพิ่มให้คุณเป็นแบบนี้
คำตอบก็คือ ความเหนื่อยล้า อันเนื่องมาจากความฝืนนั่นเอง ที่เป็นเครื่องปรุงสำคัญที่ยิ่งทำให้คุณรู้สึกหดหู่มากขึ้น
และมนุษย์มักไม่ค่อยจะรู้ตัวเองซะด้วยในภาวะที่ตนเอง กำลังตรากตรำฝืนล้าร่างกายตนเองไปมากเพียงใด
โดยเฉพาะในช่วงชีวิตวันเวลาที่ใช้ไป กับการตกอยู่ในภวังค์ จิตใจเลื่อนลอย ยิ่งคิดยิ่งฟุ้งซ่าน ยิ่งคิดยิ่งเวียนวน แทบไม่รู้คืนรู้วันเวลานาที และย่อมที่จะมักไม่รู้ว่าตัวเองตรากตรำร่างกายไปนานเพียงใดแล้ว
ร่างกายมนุษย์หากต้อง ถูกสภาวะทรมานสังขาร ตรากตรำในบางสิ่งเรื้อรังยาวนานมากเกินไป โดยเฉพาะกับเรื่องของการอกหัก ที่มีภาพวันวานมากมายชวนให้ตกอยู่ในห้วง ภวังค์แห่งจิต ยิ่งคิดยิ่งหยุดไม่ได้
ยิ่งคิดยิ่งอยากแก้ไข อยากย้อนคืน อยากได้คืน ยิ่งอยากพยายาม ยิ่งพยายามยิ่งฝืน ยิ่งฝืนยิ่งล้า
สภาวะแบบนี้ จะทำให้ร่างกายและจิตใจ ตกอยู่ในความอ่อนพลังลงมาก ยิ่งพลังของจิตและร่างกายอ่อนล้าลง ยิ่งส่งผลให้ความพยายามในสิ่งต่างๆไร้ประสิทธิภาพ และยิ่งรับรู้ถึงความเป็นไปไม่ได้ ในการย้อนคืนสิ่งที่เคยมี จิตจะยิ่งหดหู่ท้อแท้
ควรตระหนักทราบว่า ความพยายามแห่งจิตที่อยากจะฝืนดึงรั้ง ให้อะไรๆหวลคืนกลับมานั้น ควรมีรีมิทขีดจำกัด ที่จะทราบว่าเมื่อใดคือฝืนไม่ได้อีกและควรปล่อยวาง ควรจะมีจุดกำหนดที่จะเลิกและพอ
เพราะสภาพที่อ่อนล้าเรี่ยวแรงนั้น จะยิ่งซ้ำเติมให้ทุกอย่างย่ำแย่ลง ยิ่งร่างกายจิตใจเป็นแบบนี้ยิ่งเป็นไปได้ยากที่คุณจะเอาสภาพแบบนี้ไปคว้าอะไรกลับคืนมา สิ่งที่ทำให้ดีขึ้นได้คือ เซฟสุขภาพของตัวเองเอาไว้
ดีกว่าแพ้อย่างสิ้นสภาพ เพราะอย่างไรก็ต้องแพ้อยู่ดี
และนอกจากจะยิ่งไร้ประสิทธิภาพหมดสภาพจะไปทำอะไรให้ได้ดีแล้ว นอกจากไม่ได้อะไรยังจะมีแต่เจ็บปวดเพิ่มขึ้นอีกด้วย
ต้องตระหนักว่า ชีวิตของมนุษย์ มีคำว่า “ชะตา” ชะตาชีวิตของคนเรานั้นบางสิ่งมันเป็นเรื่องที่เราจะไปคอยควบคุมกำหนดไปทุกเรื่องไม่ได้
เรื่องบางอย่างมนุษย์จำต้องปล่อยให้มันดำเนินไป แล้วแต่ชะตาชีวิต มันอาจจะร้ายหรืออาจจะกลับมาดีก็ได้
ไม่มีประโยชน์ที่จะไปกลัดกลุ้มคาดเดาในสิ่งเหล่านี้
มนุษย์มักหลงลืมขีดความสามารถของตนเอง และคิดจะแบกโลกจะควบคุมทุกสิ่งไปทุกเรื่อง มากมายเกินตัว
สิ่งใดที่มันไม่ใช่ของเราอีกสิ่งใดที่เราสู้ไม่ไหว สิ่งใดที่ต้องยอมแพ้ ก็ต้องยอมแพ้ ไม่ควรฝืน
จงเอาเวลามาใช้กับการ พักผ่อนร่างกาย รักษาตัวเยียวยาจิตใจ อบรมสั่งสอนตนเอง ปลอบใจตนเอง และมองหาการเริ่มต้นชีวิตใหม่ยืนหยัดให้ได้อีกครั้ง
นั่นคือการใช้เวลาที่มีค่า กว่าการ นำเวลามาซึมเศร้า ฝืนรั้น ทำร้ายตนเอง และหากในวันที่คุณกลับมลุกขึ้นยืนได้อย่างมีพลัง คุณอาจมีพลังมากพอที่จะเป็นที่ต้องการของสิ่งที่คุณเคยเสียไปก็ได้
ลองคิดดูหากในวันนี้คุณยังฝืน ตามหารักในสภาพที่ ย่ำแย่ ไร้เรี่ยวแรงและความแจ่มใสแบบนี้ ชีวิตยากที่จะได้พบสิ่งที่ดี
สู้ใช้เวลา รักษาตนเอง กลับไปใช้ชีวิตอีกครั้งอย่างมาดมั่นและมีพลัง กลับไปอย่างผู้มีประสิทธิภาพ
นั่นย่อมเป็นหนทางที่มีค่ายิ่งกว่า นั่นคือสิ่งที่ต้องทำ อย่าคิดว่าทุกอย่างจบสิ้น