การเรียนรู้ยอมรับปล่อยวาง (บทความนี้ ค่อนข้างยาว คุณอย่าพึ่งอ่านจนจบ และรับสิ่งมากมายเหล่านี้ไว้ในสมอง เราขอแนะนำให้คุณค่อยๆอ่านที่ละเรื่องแล้วนำไปปฏิบัติใช้ทีละเรื่องไป ค่อยๆเข้ามาอ่านเพิ่มเติมทีละนิด ทบทวนหลายๆรอบ จะเป็นความรู้ที่ช่วยคุณได้มาก) คำสามสิ่งคือ เรียนรู้ ยอมรับ ปล่อยวาง เชื่อได้ว่าหลายคนคงจะเคยได้ยินคำเหล่านี้มามากมายหลายครั้งในชีวิต แต่หากเราเสริมความเข้าใจอันแท้จริงลงลึกไปถึงหลักของสามสิ่งนี้ นี่คือหลักที่สำคัญที่สามารถช่วยให้ คนเอาชนะความทุกข์ที่เกิดขึ้นภายในจิตใจได้ และก่อนที่คุณจะเริ่มกระบวนการนี้ สิ่งสำคัญอย่างแรกที่คุณควรต้องมีนั่นก็คือ “การให้เวลา” คุณจงอย่าไปคาดคั้น ที่จะให้ตัวเองหายดีแบบชนิดที่ตื่นมาอีกวัน แล้วร้องดีใจว่า ฉันหายแล้วฉันไม่ทุกข์ใจแล้วฉันสุขใจแล้ว ซึ่งมักเป็นวิธีที่วู่วาม ที่หลายคนมักทำกัน และสุดท้ายก็กลับมาซึมเศร้าวนเวียนในยามแผลใจกำเริบ ดังนั้นการแก้ปมของจิตใจอย่างบรูณาการณ์ นั่นก็คือการเข้าใจว่า กระบวนการนี้ต้องใช้เวลาอยู่บ้าง และต้องตั้งใจอย่าละทิ้งกลางคัน เพราะสิ่งเหล่านี้จำเป็นต้องอาศัยความต่อเนื่อง …
ใหม่
ใหม่ Feedอาการมือเย็นเท้าเย็น จากความเครียด
byอาการมือเย็นเท้าเย็น จากความเครียด อาการมือเย็นเท้าเย็นหรือมีเหงื่อจับ นั้นเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ แต่หากว่าคุณกำลังอยู่ในสภาวะเครียดกลุ้มหรือซึมเศร้าเรื้อรัง นั้นบ่งบอกได้ถึง ความเครียดที่เริ่มส่งผลต่อสุขภาพของคุณแล้ว และเป็นสัญญาณเตือนว่าคุณกำลังถลำลึกมากเกินไป และขระนี้มันพัฒนาการอาการขึ้นมาอีกระดับแล้ว ซึ่งอาจจะส่งผลต่อระบบของร่างกาย ที่ยากจะแก้ไขได้ในภายหน้า อาการมือเย็นเท้าเย็นนั้นเกิดจากความเรื้อรังของสภาวะความเครียด ที่ได้ส่งผลต่อระบบร่างกาย ร่างกายหลั่งสารเคมี ที่ไปกระตุ้นหัวใจทำงานหนักขึ้น จึงทำให้หลอดเลือดแดง บีบตัวแคบลง จนส่งผลให้มือเท้าเย็น หรือมือเท้าชา ซึ่งอาการเหล่านี้จะสามารถขยายไปยังโรคร้ายแรงได้อีกหลายโรค ไม่ว่าโรคหลอดเลือดสมอง โรคกล้ามเนื้อหัวใจ อาการช๊อค ฯลฯ หนทางในการบำบัดรักษาอาการเหล่านี้คือ 1.ควรพักผ่อนให้เพียงพอ 2.หาทางแก้ไขรักษาความเครียดอย่างตั้งใจที่จะรักษา อย่าเอาแต่จมเจ่าในความเศร้า 3รับประทานอาหารที่มีวิตามินสูง ผักผลไม้และธัญญาพืช และต้องทานอาหารครบมื้ออย่างเพียงพอ 4.ฝึกฝนทำสมาธิ ฝึกฝนปรับสภาวะร่างกายให้ผ่อนคลาย
ความสันโดษ ไม่ใช่เรื่องที่เลวร้าย
byความสันโดษ ไม่ใช่เรื่องที่เลวร้าย สิ่งที่ ผู้คนที่ประสบภาวะอกหักและเสียใจรุนแรง มักต้องเผชิญกับความทุกข์ใจอันหลากหลาย และหนึ่งในนั้นที่มัก เป็นกันมากนั่นก็คือ ความรู้สึกเหงา อ้างว้าง ต้องการความอบอุ่น และเกลียดความโดดเดี่ยว แน่นอนว่าความรู้สึกที่เคยได้รับจากความรักและการครองคู่นั้นมักเป็นความรู้สึก ของความอยู่ร่วม ความเติมเต็ม ความแบ่งปัน และความอบอุ่น ความข้างเคียง บางคนมองความรักเป็นเหมือน การเติมในสิ่งที่ขาดหาย เป็นสิ่งที่ช่วยทำลายความเหงา เป็นสิ่งที่เพิ่มพลัง และเป็นสิ่งที่ห่มกอดความรู้สึก บางคนมองความรักเหมือนเป็นยารักษาแผลใจ รักษาความเดียวดาย แน่นอนว่าความรักมักจะรักษาและเป็นในสิ่งเหล่านี้ได้ แต่รู้หรือไม่ว่าคุณยิ่งเสพความรักมากเท่าใด ที่ยึดติดกับความรักมากเท่าใด คุณจะยิ่งเปราะบางและต้องพึ่งพิงความรักมากยิ่งขึ้นเท่านั้น! แท้ที่จริงแล้วในโลกนี้ สิ่งที่สามารถเติมพลังแห่งชีวิตได้ มิใช่มีเพียงแค่ความรักแต่เพียงอย่างเดียว มันยังมีอีกหลายต่อหลายแนวทางดีๆที่มีค่ามีความหมาย ที่คุณจะเสาะแสวงหาเพิ่มพลังให้จิตใจตัวเองได้ …
มองให้เห็นบ่อเหตุของความทุกข์
byมองให้เห็นบ่อเหตุของความทุกข์ การมองให้เห็นถึงบ่อเหตุแห่งทุกข์นั้นถือเป็น การจัดการที่มีคุณประโยชน์สูงมากในการจัดการกลไกลทางจิตใจ โดยปรกติแล้วคนที่ต้องตกเป็นโรคเครียดซึมเศร้าเรื้อรังรุนแรง มักเกิดจากปัญหาที่ซับซ้อน และหลากหลายรุมสุมทรวง การพิจารณาบ่อเหตุของทุกข์ที่เกิดขึ้นในจิตใจ จะสามารถ คัดแยกวิเคราะและจัดการกับกลไกลได้ถูกจุด และมองเห็นแผล มองเห็นตัวปัญหาที่ซ่อนลึกอยู่ในปมของจิตใจได้ แต่การที่จะพิจารณาให้เห็นถึงบ่อเหตุในจิตใจนั้น ผู้ฝึกจำเป็นที่จะต้องฝึกฝนให้จิตใจเกิดสมาธิขึ้นให้ได้ แม้จะยังว้าวุ่นใจ แต่ก็ขอให้ฝึกพอเพียงที่จะเกิดสมาธิที่สงบได้สักช่วงหนึ่ง เพื่อสร้างสภาวะที่เหมาะสมที่จะมองเห็นบ่อเหตุของความทุกข์ได้ และเมื่อใจเริ่มมีสภาวะเป็นสมาธิแล้ว จึงค่อยๆก่อเกิดสติ ลำเลียงจิต ไตร่ตรอง หาเหตุว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น อย่างเช่น บางคนที่กำลังทุกข์เพราะถูกคนรักหักหลังทรยศ ก็ให้เราค้นหาคำตอบก่อนว่า ทำไมเราจึงเจ็บเพราะสิ่งนี้ เราเจ็บตรงไหน เราเจ็บที่ไม่มีเขาอยู่ใกล้ใช่หรือไม่ แล้วทำไมจึงเป็นเช่นนั้น นั่นเพราะเราหลงใหลในสุขในยามมีเขาอยู่ใกล้ใช่หรือไม่ และทำไมเราจึงมีสุขในยามที่เขาอยู่ใกล้ นั่นเพราะเรายึดติดสิ่งใดในตัวเขา เรามีความรังเกียจความโดดเดี่ยวใช่หรือไม่ เราค่อยๆคิดถึงเหตุที่ทำให้เราทุกข์ไปเรื่อยๆ โดยอาศัยการคิดแบบนี้เชื่อมโยงให้ลึกลงไปเรื่อยๆ ซึ่งสามารถนำไปคิดได้ทั้งในคนที่พบเจอความทุกข์จากเรื่องอื่นๆ…