อาการมือเย็นเท้าเย็น จากความเครียด

อาการมือเย็นเท้าเย็น จากความเครียด อาการมือเย็นเท้าเย็นหรือมีเหงื่อจับ นั้นเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ แต่หากว่าคุณกำลังอยู่ในสภาวะเครียดกลุ้มหรือซึมเศร้าเรื้อรัง นั้นบ่งบอกได้ถึง ความเครียดที่เริ่มส่งผลต่อสุขภาพของคุณแล้ว และเป็นสัญญาณเตือนว่าคุณกำลังถลำลึกมากเกินไป และขระนี้มันพัฒนาการอาการขึ้นมาอีกระดับแล้ว  ซึ่งอาจจะส่งผลต่อระบบของร่างกาย ที่ยากจะแก้ไขได้ในภายหน้า อาการมือเย็นเท้าเย็นนั้นเกิดจากความเรื้อรังของสภาวะความเครียด ที่ได้ส่งผลต่อระบบร่างกาย ร่างกายหลั่งสารเคมี ที่ไปกระตุ้นหัวใจทำงานหนักขึ้น  จึงทำให้หลอดเลือดแดง บีบตัวแคบลง จนส่งผลให้มือเท้าเย็น หรือมือเท้าชา ซึ่งอาการเหล่านี้จะสามารถขยายไปยังโรคร้ายแรงได้อีกหลายโรค ไม่ว่าโรคหลอดเลือดสมอง โรคกล้ามเนื้อหัวใจ  อาการช๊อค ฯลฯ หนทางในการบำบัดรักษาอาการเหล่านี้คือ 1.ควรพักผ่อนให้เพียงพอ  2.หาทางแก้ไขรักษาความเครียดอย่างตั้งใจที่จะรักษา อย่าเอาแต่จมเจ่าในความเศร้า 3รับประทานอาหารที่มีวิตามินสูง ผักผลไม้และธัญญาพืช และต้องทานอาหารครบมื้ออย่างเพียงพอ 4.ฝึกฝนทำสมาธิ ฝึกฝนปรับสภาวะร่างกายให้ผ่อนคลาย

ความสันโดษ ไม่ใช่เรื่องที่เลวร้าย

ความสันโดษ ไม่ใช่เรื่องที่เลวร้าย   สิ่งที่ ผู้คนที่ประสบภาวะอกหักและเสียใจรุนแรง มักต้องเผชิญกับความทุกข์ใจอันหลากหลาย และหนึ่งในนั้นที่มัก เป็นกันมากนั่นก็คือ ความรู้สึกเหงา อ้างว้าง ต้องการความอบอุ่น  และเกลียดความโดดเดี่ยว แน่นอนว่าความรู้สึกที่เคยได้รับจากความรักและการครองคู่นั้นมักเป็นความรู้สึก ของความอยู่ร่วม ความเติมเต็ม ความแบ่งปัน และความอบอุ่น ความข้างเคียง บางคนมองความรักเป็นเหมือน การเติมในสิ่งที่ขาดหาย เป็นสิ่งที่ช่วยทำลายความเหงา เป็นสิ่งที่เพิ่มพลัง และเป็นสิ่งที่ห่มกอดความรู้สึก บางคนมองความรักเหมือนเป็นยารักษาแผลใจ รักษาความเดียวดาย แน่นอนว่าความรักมักจะรักษาและเป็นในสิ่งเหล่านี้ได้ แต่รู้หรือไม่ว่าคุณยิ่งเสพความรักมากเท่าใด ที่ยึดติดกับความรักมากเท่าใด คุณจะยิ่งเปราะบางและต้องพึ่งพิงความรักมากยิ่งขึ้นเท่านั้น! แท้ที่จริงแล้วในโลกนี้ สิ่งที่สามารถเติมพลังแห่งชีวิตได้ มิใช่มีเพียงแค่ความรักแต่เพียงอย่างเดียว มันยังมีอีกหลายต่อหลายแนวทางดีๆที่มีค่ามีความหมาย ที่คุณจะเสาะแสวงหาเพิ่มพลังให้จิตใจตัวเองได้  …

มองให้เห็นบ่อเหตุของความทุกข์

มองให้เห็นบ่อเหตุของความทุกข์ การมองให้เห็นถึงบ่อเหตุแห่งทุกข์นั้นถือเป็น การจัดการที่มีคุณประโยชน์สูงมากในการจัดการกลไกลทางจิตใจ โดยปรกติแล้วคนที่ต้องตกเป็นโรคเครียดซึมเศร้าเรื้อรังรุนแรง มักเกิดจากปัญหาที่ซับซ้อน และหลากหลายรุมสุมทรวง การพิจารณาบ่อเหตุของทุกข์ที่เกิดขึ้นในจิตใจ จะสามารถ คัดแยกวิเคราะและจัดการกับกลไกลได้ถูกจุด และมองเห็นแผล มองเห็นตัวปัญหาที่ซ่อนลึกอยู่ในปมของจิตใจได้ แต่การที่จะพิจารณาให้เห็นถึงบ่อเหตุในจิตใจนั้น ผู้ฝึกจำเป็นที่จะต้องฝึกฝนให้จิตใจเกิดสมาธิขึ้นให้ได้ แม้จะยังว้าวุ่นใจ แต่ก็ขอให้ฝึกพอเพียงที่จะเกิดสมาธิที่สงบได้สักช่วงหนึ่ง เพื่อสร้างสภาวะที่เหมาะสมที่จะมองเห็นบ่อเหตุของความทุกข์ได้ และเมื่อใจเริ่มมีสภาวะเป็นสมาธิแล้ว จึงค่อยๆก่อเกิดสติ ลำเลียงจิต ไตร่ตรอง  หาเหตุว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น อย่างเช่น บางคนที่กำลังทุกข์เพราะถูกคนรักหักหลังทรยศ ก็ให้เราค้นหาคำตอบก่อนว่า ทำไมเราจึงเจ็บเพราะสิ่งนี้  เราเจ็บตรงไหน  เราเจ็บที่ไม่มีเขาอยู่ใกล้ใช่หรือไม่ แล้วทำไมจึงเป็นเช่นนั้น  นั่นเพราะเราหลงใหลในสุขในยามมีเขาอยู่ใกล้ใช่หรือไม่ และทำไมเราจึงมีสุขในยามที่เขาอยู่ใกล้  นั่นเพราะเรายึดติดสิ่งใดในตัวเขา  เรามีความรังเกียจความโดดเดี่ยวใช่หรือไม่ เราค่อยๆคิดถึงเหตุที่ทำให้เราทุกข์ไปเรื่อยๆ  โดยอาศัยการคิดแบบนี้เชื่อมโยงให้ลึกลงไปเรื่อยๆ ซึ่งสามารถนำไปคิดได้ทั้งในคนที่พบเจอความทุกข์จากเรื่องอื่นๆ…